โจ๋เมืองคอนพิเรนทร์หนัก ต้มน้ำกระท่อมผสมขี้เถ้าเผาศพดื่มกินกันเป็นแฟชั่น

โจ๋เมืองคอนพิเรนทร์หนัก หลังต้มน้ำกระท่อมผสมขี้เถ้าเผาศพดื่มกินกันเป็นแฟชั่น จนระบาดหนักไปทั่ว เรียกสูตรเด็ดว่า ตายโหง หรือ อวตาร อ้างสรรพคุณแคล้วคลาดปลอดภัย-วิญญาณช่วยคุ้มครอง

โดยเว็บไซต์ ข่าวสด พาดหัวข่าวว่า "โจ๋ฮิต-สูตร อวตาร ขี้เถ้าศพ! ผสมน้ำใบกระท่อม"
พิเรนทร์หนัก-ไปรอถึงเมรุ เชื่อทำให้อยู่ยงคงกระพัน เพิ่มพลัง-ดึงดูดหญิงสาว อ่านต่ิอ... 

(27 ม.ค.) นายธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ตรวจผลการปฏิบัติงานในการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด หลังมีการแพร่ระบาดอย่างหนักของยาเสพติดในจังหวัด โดยเฉพาะน้ำต้มพืชกระท่อมที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็กและเยาวชนอย่างกว้างขวาง

ล่าสุดพบว่าเด็กและเยาวชนนำเอาขี้เถ้าใต้เชิงตะกอนเผาศพมาใส่เป็นส่วนผสมในน้ำต้มพืชกระท่อมด้วย และถือเป็นสูตรเด็ดสุดยอดชื่อ ว่า"ตายโหง" หรือ "อวตาร"

เช่นเดียวที่ นายพล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี วัยรุ่นคนหนึ่งที่ชอบเสพน้ำพืชกระท่อม เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนๆ จะผลิตและดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมมาแล้วทุกสูตร ล่าสุดนำขี้เถ้าใต้เชิงตะกอนเผาศพมาใส่เป็นส่วนผสม เป็นความเชื่อในหมู่เด็กและเยาวชนว่า หากดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมสูตรนี้จะทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง และแคล้วคลาดปลอดภัย เหมือนมีวิญญาณของภูตผีปีศาจมาช่วยปกป้องคุ้มครอง

ด้านนายสุมล อักษรพาลี อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ยอมรับว่าปัญหาเรื่องเด็กและเยาวชนนิยมผลิตและดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมกลายเป็นปัญหาของทุกหมู่บ้าน ที่สำคัญปัญหานี้ยากที่จะแก้ไขหรือห้ามปรามเด็กและเยาวชนในหมู่บ้าน จึงทำได้แค่ห้ามปรามและว่ากล่าวตักเตือน

ขณะที่นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา เขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 (สารวัตรนักเรียน) เผยว่า เรื่องการใช้ส่วนผสมขี้เถ้าเผาศพในสูตรการต้มกระท่อมนั้นมีมาระยะหนึ่งแล้ว เป็นความพิเรนทร์อย่างเหลือเชื่อของวัยรุ่น ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองควรติดตามพฤติกรรมของบุตรหลานให้ใกล้ชิดเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไร เชื่อว่าหากเสพไปมากจะทำอันตรายต่อสุขภาพได้