อดีตกงสุลป่วยหนัก เพื่อนพาไปรักษาหมด 5 แสน ลูกเมียบินมาถ่ายรูปแล้วทิ้งศพไว้ รพ.
อดีตกงสุลป่วยหนัก ลูก อดีตเมีย พี่สาว บินจากเนเธอร์แลนด์ มาถ่ายรูปกลับไปทำเรื่องรับทรัพย์สิน ทิ้งศพไว้ รพ. ไม่จ่ายค่ารักษา
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน 66 น.ส.ดวงใจ หรือ เบียร์ อายุ 54 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน กรณีตนเองรูดบัตรเครดิตการ์ด จำนวน 60,000 บาท ให้กับโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาตัวเพื่อนสนิทของพี่สาวคือ MR.Hendrikus อายุ 66 ปี อดีตกงสุลกิตติมศักดิ์ไทย ประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เสียชีวิตและศพอยู่โรงพยาบาลไม่สามารถนำออกมาได้เนื่องจากยังติดค้างค่ารักษาอยู่จำนวนเกือบ 400,000 บาท ทำให้คุณเบียร์ หมดหนทางไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตคือ อดีตภรรยา พี่สาว ลูกสาว เดินทางมาพูดคุยก่อนเสียชีวิตเพียงวันเดียว ทุกคนต่างปัดความรับผิดชอบในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล และตีตั๋วเตรียมเดินทางกลับประเทศในวันพฤหัสบดีนี้
คุณเบียร์เล่าเหตุการณ์อย่างละเอียดว่า ผู้เสียชีวิต เป็นเพื่อนสนิทกับพี่สาวของตน เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 66 ได้นั่งแท็กซี่ออกจากที่พักย่านสุขุมวิท มาหาตนกับพี่สาวที่บ้านย่านประชาชื่น (มีคลิป) ตอนลงจากรถแท็กซี่ หลังจากพูดคุยได้ไม่นานผู้ตายมีอาการเหมือนเป็นไข้ไอ ไม่สบาย ตนและพี่สาวจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล นอนพักรักษาตัวหมดค่ารักษาพยาบาลไปเบื้องต้นจำนวน 100,000 บาท ตนเองได้เจรจาต่อรองกับทางโรงพยาบาลขอชำระบัตรเครดิตก่อนเป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท ระหว่างนั้นผู้ตายได้พูดกับตนและพี่สาวว่า ให้ติดต่อ ไปหาญาติที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อเดินทางมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล โดยบอกกับตนและพี่สาวว่าไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องค่ารักษา เพราะที่บ้านผู้ตายมีฐานะร่ำรวย อยู่ในขั้นเศรษฐี ให้ทางโรงพยาบาลรักษาไปได้เลยเต็มที่
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 66 ครอบครัวผู้ตาย ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ตายที่โรงพยาบาล และมีการพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อย แต่แล้วจู่ๆ วันที่ 3 มิถุนายน ผู้ตายก็ได้เสียชีวิตลง ตนเองได้ติดต่อ สอบถามกับทางครอบครัวผู้ตายแต่ก็ได้รับการปฏิเสธ บอกให้ตนเองรับผิดไม่เกี่ยวกับครอบครัวของเขา แล้วพวกเขากำลังจะบินกลับในวันพฤหัสบดีนี้แล้ว ตนเองรู้สึกงงเป็นอย่างมากว่าทำไมเขาถึงไม่นำศพออกมาจากทางโรงพยาบาล เพื่อนำกลับประเทศ หรือจะทำพิธีในประเทศไทยก็ได้ ตนได้รับการทวงถามจากทางโรงพยาบาลให้มาชำระเงินจำนวน เกือบ 400,000 บาท ที่ยังค้างอยู่พร้อมกับให้รีบมารับศพออกไป มิเช่นนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ตนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมอดีตภรรยา พี่สาว และ ลูกสาว ของผู้ตาย จึงทำแบบนี้
เท่าที่สอบถามพี่สาวของตนเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาเยี่ยม ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ เป็นหลักฐานในโรงพยาบาล เมื่อทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตก็จะนำหลักฐานทั้งหมดไปยื่นต่อศาลที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อทำเรื่องขอรับทรัพย์สมบัติของผู้ตายที่มีจำนวนมาก แต่ทำไม ถึงปล่อยให้ผู้ตาย เป็นศพอนาถานอนอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ ตนและพี่สาว ช่วยเหลือผู้ตายมาตลอด หมดเงินไปเกือบ 500,000 บาทแล้ว คิดว่าจะได้เงินคืนแต่สุดท้ายกลับมาเจอการปฏิเสธจากครอบครัวของผู้ตายแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
เมื่อเดินทางไปติดต่อทางสถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยทางเจ้าหน้าที่ก็แนะนำมาว่าสถานทูตไม่มีนโยบายที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือในลักษณะแบบนี้ ขอให้ตนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายประเทศไทยเอง ตนจึงอยากฝาก ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้องช่วยเหลือตนด้วยคุณเบียร์กล่าวในที่สุด