มาบตาพุดกระทบลงทุนน้อย
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า การลงทุนภาคเอกชนในปี 53 คาดว่าอยู่ที่ 4.1 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 52 ถึง 6% หรือเพิ่ม 2.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้หลายภาคอุตสาหกรรมเร่งขยายกำลัง การผลิตตามความต้องการของผู้บริโภคที่สูงตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ พลังงานทดแทน โรงงานน้ำตาล สิ่งทอ อา หาร การแปรรูปเกษตร สินค้าอุปโภคและบริโภค ล่าสุดมีการสั่งซื้อเครื่องจักรจำนวนมากหลังจากผู้ประกอบการไทยไม่ได้ลงทุนประเภทนี้มา 2-3 ปีแล้ว
ขณะเดียวกันภาคการลงทุนของเอก ชนยังได้รับอานิสงส์จากโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลที่จะช่วยกระตุ้นให้เอกชนได้ลงทุนในการผลิตวัตถุดิบตามด้วย
แม้ภาคอุตสาหกรรมไทยจะได้รับผลกระทบจากคำสั่งศาลปกครองให้ระงัารลงทุนในพื้นที่มาบตาพุด 65 โครงการที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมร้ายแรง จนอาจทำให้ต่างชาติที่กำลังพิจารณาเข้ามาลงทุนในไทยจำนวนหนึ่งต้องชะลอแผนหรือหันไปพิจารณาลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านก็ตาม แต่ภาพรวมภาคอุตสาหกรรมไทยที่ไม่ต้องผ่านการทำรายงานผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม และราย งานผลกระทบต่อสุขภาพอีกหลายประเภท ยังเป็นที่สนใจของต่างชาติเพื่อเข้ามาขยายฐานการผลิตในไทย
นายธนิตกล่าวว่าก่อนที่จะเกิดเหตุ การณ์ในมาบตาพุดภาคเอกชนประเมินว่าการลงทุนในปี 53 จะอยู่ที่ 4.2 แสนล้านบาทหรือเพิ่มกว่า 8% ขณะที่การลงทุนของภาครัฐจะขยายตัว 6% แต่หลังจากเกิดเหตุ การณ์มาบตาพุดก็จะทำให้การลงทุนภาคเอกชนลดลงจากเป้าเดิม 2%
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุต สาหกรรม กล่าวว่า หากคณะกรรมการ 4 ฝ่ายกำหนดแนวทางแก้ปัญหาการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุดชัดเจนได้เร็วก็จะทำให้กระทรวงอุตสาหกรรมไม่จำเป็นต้องปรับลดเป้าตัวเลขของการขอรับการส่งเสริมการลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในปี 53 ที่ตั้งไว้ 5 แสนล้านบาท เนื่องจากยังมีนักลงทุนต่างชาติอีกมากสนใจเข้ามาลงทุนในไทย
นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กอน.) กล่าวว่า กอน.ร่วมกับกรมศุลกากรเปิดศูนย์บริการธุรกิจด้านนวัตกรรมการบริการเชิงรุก เพื่อให้บริการนักลงทุนในรูปแบบใหม่ที่เป็นมาตรฐานสากล และมีความรวดเร็วมากขึ้น พร้อมให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุน การอำนวยความสะดวกการเข้าไปประกอบกิจการในพื้นที่นิคมอุตสาห กรรมทั้ง 42 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการลงทุนในปี 53.