มาร์คร่วมถกผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น
นายกฯ กล่าวว่า ทั้ง 5 ประเทศในลุ่มน้ำโขงเป็นส่วนหนึ่งของอาเซียน ดังนั้น สิ่งที่ให้ความสำคัญร่วมกัน คือ เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การดูแลเรื่องกฎระเบียบการผ่านแดนทั้งคน และสินค้า ถ้าสามารถทำให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้ จะทำให้เรื่องอื่นเกิดขึ้นตามมา และถึงแม้จะเป็นโครงการที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็มีผลในทางบวกกับเราโดยตรง ในแง่การลดต้นทุนการขนส่ง และเป็นผลให้อนุภูมิภาคมีความดึงดูดมากขึ้นในการลงทุน
ต่อข้อถามว่า ไทยต้องการให้ทางญี่ปุ่นสนับสนุนเรื่องใดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราคิดว่า เราเป็นเสมือนประตู ถ้าญี่ปุ่นมาทำเรื่องการฝึกอบรม และผ่านเราก็เป็นเรื่องดี เพราะทำให้เราได้รับการยอมรับในการเป็นประตูเข้าสู่อนุภูมิภาค และความร่วมมือกับญี่ปุ่นในเรื่องเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการลงทุนสาขาใหม่ในประเทศไทย
ต่อมาเวลา 10.30 น. นายกฯ ร่วมพิธีลงนามปฏิญญาโตเกียว และการแถลงข่าวร่วมของผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น เวลา 12.00 น. นายกฯ และคณะ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับทีมประเทศไทยในกรุงโตเกียว และให้สัมภาษณ์พิเศษสถานีโทรทัศน์ NHK ต่อมาเวลา 15.30 น. นายคัตสึยะ โอกาดะ รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ และเวลา 16.25 น. นายกฯ หารือทวิภาคีกับ นายยูกิโอะ ฮาโตยามะ นายกฯ ญี่ปุ่น ที่ทำเนียบนายกฯ ก่อนที่จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเวลา 23.30 น.
สำหรับปฏิญญาโตเกียวมีสาะสำคัญ คือ ญี่ปุ่นให้คำมั่นที่จะร่วมมือเพื่อพัฒนาภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และชื่นชมต่อการที่ประเทศลุ่มน้ำโขงมีความพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ ยังเห็นพ้องต้องกันว่า ยังมีลู่ทาง และโอกาสสำคัญอีกมากในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ที่จะต้องใช้ความพยายามร่วมกันระหว่างญี่ปุ่น และประเทศลุ่มน้ำโขงผลักดันให้เกิดผล ซึ่งจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ร่วมกันสำหรับญี่ปุ่น และประเทศลุ่มน้ำโขง.