#ทวงPfizerให้หน่วยด่านหน้า ดราม่ากระหึ่ม เกณฑ์จัดสรร "ไฟเซอร์" ให้บุคลากรการแพทย์

#ทวงPfizerให้หน่วยด่านหน้า ดราม่ากระหึ่ม เกณฑ์จัดสรร "ไฟเซอร์" ให้บุคลากรการแพทย์

#ทวงPfizerให้หน่วยด่านหน้า ดราม่ากระหึ่ม เกณฑ์จัดสรร "ไฟเซอร์" ให้บุคลากรการแพทย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากมติการประชุมคณะทำงานด้านบริหารการจัดการการให้บริการวัคซีนโควิด Pfizer ที่ระบุถึงเกณฑ์การจัดสรรวัคซีน Pfizer จำนวน 1.5 ล้านโดส สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยจัดสรรเพื่อเป็นเข็มกระตุ้นเท่านั้น ไม่มีเริ่มเข็ม 1  บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เข้าเกณฑ์คือ ต้องปฏิบัติงานแผนกผู้ป่วยโควิด หรือปฏิบัติงานข้องเกี่ยวกับภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด และได้รับการฉีดวัคซีน Sinovac 2 เข็มแล้ว อย่างน้อย 4 สัปดาห์

ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ไม่เข้าเกณฑ์รับวัคซีนไฟเซอร์ในล็อตนี้ ได้แก่

  • ได้รับการฉีดวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 เข็ม
  • ได้รับการฉีดวัคซีน AstraZeneca เข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 แล้ว
  • ได้รับการฉีดวัคซีน Sinovac 1 เข็ม และ AstraZeneca 1 เข็ม
  • ได้รับการฉีดวัคซีน Sinovac หรือ AstraZeneca มาเพียง 1 เข็ม
  • ได้รับการฉีดวัคซีนอื่นๆ

จากเงื่อนไขดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์อย่างมาก ในทวิตเตอร์มีการพูดคุยเรียกร้องและแสดงความคิดเห็นกันผ่านแฮชแท็ก #ทวงPfizerให้หน่วยด่านหน้า เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับกฎเกณฑ์มากมายที่ตั้งขึ้นมา โดยมองว่า บุคลากรด่านหน้าที่เสี่ยงโดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียวก็ควรได้ฉีดไฟเซอร์ หรือรายที่ฉีดซิโนแวคเพียงเข็มเดียว ก็ควรได้รับไฟเซอร์เช่นกัน 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการบริหารจัดการวัคซีน โดยเฉพาะกรณีวัคซีนไฟเซอร์ที่เพิ่งได้รับบริจาคจากสหรัฐฯ ระบุว่า ถ้าทหารได้รับการดูแลเป็นพิเศษหลังการรัฐประหาร บุคลากรด่านหน้าของต้องได้มากกว่า เกณฑ์การจัดสรรวัคซีนให้บุคลากรด่านหน้าที่ควรจะเป็น

Sinovac 2 เข็ม —> Pfizer 2 โดส
Sinovac 1 เข็ม —> Pfizer 2 โดส
ยังไม่ได้รับวัคซีน —> Pfizer 2 โดส
AstraZeneca 1 เข็ม —> Pfizer 1 โดส

นายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.แพร่ หลายสมัย ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า "อาสาสมัครทุกท่าน ที่ไปดูแลประชาชน คนป่วย คนเสียชีวิต คนไร้บ้าน ต้องได้ Pfizer ทันที"

ศ.ดร.ภญ.วิจิตรา ทัศนียกุล อาจารย์แพทย์ ม.ขอนแก่น โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก Wichittra Tassaneeyakul ว่า "ในการดูแลคนไข้ เรามีเกณฑ์เดียวคือทำอย่างไรเค้าถึงจะรอดชีวิต พอถึงทีที่บรรดาด่านหน้าจะได้รับวัคซีนเข็ม 3 pfizer เกณฑ์คัดเข้า คัดออก เยอะมาก ทั้งๆที่พวกคุณที่กำหนดเกณฑ์ก็รู้ว่าสถานการณ์โควิดนั้นเป็นอย่างไร ด่านหน้าที่คุณกำหนดไว้ว่าเสี่ยงครอบคลุมคนด่านหน้าแค่ไหน คนที่รักษาคนไข้ในตามวอร์ดต่างๆ เภสัชกร เจ้าหน้าที่การเงิน เวรแปล มีอีกเยอะที่เค้าต้องใกล้ชิดคนไข้ ไม่ได้มีแค่ที่คุณกำหนดเท่านั้น แต่ละ รพ. ก็สำรวจรายชื่อพร้อมชนิดของวัคซีนเข็ม 3 เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว กรุณารีบให้เข็ม 3 ให้ไวเถอะค่ะ ภูมิคุ้มกันต้องใช้เวลาในการสร้าง อย่าพยายามทำลายขวัญกำลังใจคนทำงานให้มากกว่านี้เลย จะให้พวกเค้าทนแค่ไหน ปล. เท่าที่ทราบคนที่ออกมาพูดตอนนี้คือคนที่ไม่ได้มี coi เพราะเค้าถูกฉีดเข็ม 3 ด้วย vaccine ที่พวกคุณเร่งรัดให้เลือกไปเรียบร้อยแล้วค่ะ คนด่านหน้ามีเกณฑ์มากมาย ส่วนคนหน้าด้านไม่ต้องมีเกณฑ์เพราะมันเป็น genetic และมี envitomental factor เป็นตัวเหนี่ยวนำให้มีการแสดงออกมากขึ้นเช่นการรวมตัวในกลุ่มคนที่มีกรอบความคิดคล้ายกัน"

อย่างไรก็ตาม ช่อง 3 รายงานว่า จากการสอบถามไปกับทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้คำตอบเบื้องต้นว่า นี่เป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้นยังไม่ใช่ข้อสรุป และขอให้ฟังการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.2564 )

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook