ไขปริศนาศพท้ายซอย เค้นสอบ 5 วัยรุ่นทำเนียนนั่งกินเบียร์ หลังรุมกระทืบคนตาย

ไขปริศนาศพท้ายซอย เค้นสอบ 5 วัยรุ่นทำเนียนนั่งกินเบียร์ หลังรุมกระทืบคนตาย

ไขปริศนาศพท้ายซอย เค้นสอบ 5 วัยรุ่นทำเนียนนั่งกินเบียร์ หลังรุมกระทืบคนตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(6 ก.พ.64) พ.ต.อ.ภาคภูมิ  ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยถึงกรณีที่คนร้ายก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายสุชิน อายุ 40 ปี เสียชีวิต และ นายเฉลิมพล อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนสาธารณะ คุ้มบ้านหนองตมน้อย 3 ท้ายซอยเกษตรสมบูรณ์ หมู่ 2 บ้านหนองตมน้อย ต.บึงพระ เมื่อเวลา 23.45 น.วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมานั้นว่า ผลการชันสูตรศพของแพทย์พบว่า นายสุชินถูกตีด้วยของแข็งที่หน้าอกจนปอดฉีก ตาแตกทั้งสองข้างและดั้งจมูกยุบ

ตำรวจสอบถาม นายเฉลิมพล ทราบว่าเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุพร้อมกับผู้เสียชีวิตและไม่ทราบว่าใครทำร้ายร่างกายตนเองกับผู้เสียชีวิต 

ห่างจากจุดพบศพผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจพบมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คนนั่งดื่มเบียร์กันอยู่ที่สนามเปตองของชุมชน สอบถามทราบว่าผู้เสียชีวิตกับผู้บาดเจ็บถูกวัยรุ่นไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดทำร้ายร่างกาย บนถนนเยื้องกับสนามเปตองเล็กน้อย ก่อนที่จะถูกไล่ทำร้ายไปถึงจุดพบศพ เมื่อตำรวจตรวจบนถนนพบคราบเลือดหยดอยู่จำนวนหนึ่งและพบธนบัตรใบละยี่สิบบาท 1 ใบ รวมทั้งเงินเหรียญอีกจำนวนหนึ่งตกอยู่ริมถนน คาดว่าจะเป็นของผู้เสียชีวิต และห่างออกไปเล็กน้อยพบวัตถุคล้ายอาวุธปืนลูกซองยาวตกอยู่ริมถนน 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเชิญกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 คน ไปสอบสวนปากคำเพื่อขยายผลหาเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อจะได้จับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

และจากการสอบสวนปากคำผู้ต้องสงสัยที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายธีรพงศ์  อายุ 31 ปี นายเฉลิมพร อายุ 25 ปี นายประสิทธิ์ อายุ 34 ปี นายธีรภัทร อายุ 19 ปี และนายสุพศิน อายุ 18 ปี ที่นั่งดื่มเบียร์อยู่บริเวณสนามเปตองห่างจากจุดพบศพประมาณ 80 เมตร ตลอดทั้งคืน ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายนายสุชิน จนถึงแก่ความตาย และนายเฉลิมพล ได้รับบาดเจ็บจริง โดยการชกต่อย เตะตามลำตัวและใบหน้า

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา นายธีรพงศ์กับเพื่อนอีก 4 คนว่า ร่วมกันกับพวกทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวนปากคำเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook