ธุรกิจเช่าซื้อรุกตลาดไตรมาส4 ''เอสซีบีแอล''ทุ่มดอกเบี้ยต่ำ-อัดโปรโมชันทัวร์นอก

ธุรกิจเช่าซื้อรุกตลาดไตรมาส4 ''เอสซีบีแอล''ทุ่มดอกเบี้ยต่ำ-อัดโปรโมชันทัวร์นอก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ตลาดเช่าซื้อรถยนต์ไตรมาส 4 คึกคัก ค่ายเอสซีบีแอลหวนทวงคืนส่วนแบ่งตลาดทุ่มดอกเบี้ยต่ำสุด 2.55% พร้อมจัดโปรโมชันจูงใจเซลส์-ดีลเลอร์ขายรถ สะสมแต้มแลกทัวร์ดูไบประยุทธ์ประธานสมาคมเช่าซื้อเผยโค้งสุดท้ายตลาดแข่งขันดุ เหตุทุกค่ายต้องการชดเชยยอดขายต้นปีตกประเมินมูลค่าตลาด 2.3-2.5 แสนล้านบาท

แหล่งข่าวจากธุรกิจเช่าซื้อเปิดเผยกับ ฐานเศรษฐกิจ ตลาดเช่าซื้อรถยนต์เริ่มคึกคักตั้งแต่ 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริษัท ไทยพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด หรือเอสซีบีแอลที่หวนกลับมาทวงคืนส่วนแบ่งทางการตลาดโดยให้ดอกเบี้ยต่ำเพียงอัตรา 2.55% สำหรับลูกค้าที่วางเงินดาวน์ 15% ผ่อนชำระในระยะเวลา 48เดือน นอกจากนี้ยังอัดโปรโมชันจูงใจเซลส์ขายรถยนต์กับดีลเลอร์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แต่ละแห่งด้วยการกำหนดเป้า การนำส่งยอดเช่าซื้อรถ โดยสะสมแต้มคะแนนเป็นโปรแกรมทัวร์ดูไบ

จริงๆ เฉพาะอัตราดอกเบี้ย 2.55%นั้นบริษัทแทบจะไม่มีกำไรแล้วต่างบริษัทก็ยังอัดโปรโมชันจูงใจเซลส์และดีลเลอร์ ด้วยโปรแกรมทัวร์ดูไบอีก ซึ่งเข้าใจว่าแบงก์ไทยพาณิชย์ที่เป็นบริษัทแม่น่าจะสนับสนุนงบในการทำตลาดครั้งนี้

ด้านนายญนน์ โภคทรัพย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) ระบุว่า ปีหน้าจะเริ่มผลักดันการทำตลาดเช่าซื้อรถยนต์ โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นอันดับ 1 ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 3-4

นายอนุชาต ดีประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส บมจ.ธนาคารธนชาต กล่าวว่าธนาคารอยู่ระหว่างพิจารณาแคมเปญเดือนสุดท้ายเพื่อทำยอดขายรถยนต์โดยอาจจะเน้นกลุ่มลูกค้าเฉพาะและทำแคมเปญจูงใจเซลส์และดีลเลอร์ที่ส่งรถยนต์เพื่อจัดไฟแนนซ์กับธนชาตโดยการให้เป็น

เงินรางวัลตอบแทน หรือรูปแบบอื่นซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา

ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ธนาคารกำหนดเป้าสินเชื่อที่ปล่อย 6,000 ล้านบาทต่อเดือนเพื่อให้ได้ยอดสินเชื่อโตตามเป้าที่กำหนดไว้ทั้งปี 8 หมื่นล้านบาทจาก 8 เดือนมียอดสินเชื่อเข้ามาแล้ว 45,000 ล้านบาทซึ่งต่ำจากเป้าอยู่ 5-10% ทั้งนี้ปัจจุบัน เช่าซื้อเพื่อรถใหม่มีสัดส่วน 75%

นายประยุทธ จิตรวัชรโกมล ประธานสมาคมเช่าซื้อไทยและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้าลีสซิ่ง(ประเทศไทย)ฯกล่าวว่า ช่วงที่เหลือตลาดเช่าซื้อคึกคักขึ้น ส่วนหนึ่งจากแต่ละค่ายต้องชดเชยยอดขายที่ตกไปเมื่อต้นปีและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดโดยปีนี้มูลค่าตลาดเช่าซื้อน่าจะตกประมาณ 230,000-250,000 ล้านบาทจากตลาดรถยนต์ที่ลดลงจากปี 2551ประมาณ 20% ทั้งปีมูลค่าตลาดเช่าซื้อปี 2551 อยู่ที่ประมาณ 584,319.10 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดปี 2550 ที่ 563,397.15 ล้านบาท และปี 2549 จำนวน 501,713.59 ล้านบาท

นายสติ ศังขวณิช ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์)กล่าวว่า ธนาคารเน้นการให้บริการดีและอนุมัติเร็ว เช่น กรณีลูกค้าข้าราชการหรือลูกค้าที่มีบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารนั้นสามารถตอบรับภายในครึ่งวันทำการคือ ส่งเอกสารครบถ้วนตอนเช้าพอเที่ยงวันทางธนาคารก็ให้คำตอบว่าอนุมัติหรือไม่อนุมัติ นอกจากนี้ยังมีความได้เปรียบในการทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าไทยมุสลิม รวมทั้งเพิ่มตัวแทนจำหน่าย(ดีลเลอร์)ทั่วประเทศปีนี้เป็น 200 รายจากปัจจุบันมี 80 ราย

นายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิสซิ่งกสิกรไทย จำกัด หรือ เคลิสซิ่ง กล่าวว่า

บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแคมเปญการันตีการจ่ายเงินที่รวดเร็ว เช่น ภายใน 1วันให้ดีลเลอร์ จากที่ผ่านมาดีลเลอร์ที่เปิดบัญชีผ่านธนาคารกสิกรไทยจะได้รับเงินเร็วอยู่แล้ว แต่มีการันตีก็จะเป็นการรับประกันและเพิ่มความเชื่อมั่นกับดีลเลอร์ยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นจุดขายที่นอกเหนือจากแคมเปญอนุมัติวงเงิน 100% ของราคาประเมิน ที่สำคัญคือ การให้บริการและการพิจารณา/อนุมัติสินเชื่อตรงใจลูกค้าต้องการ และตลาดรถแลกเงินกลุ่มเป้าหมายที่มีรถอยู่แล้วโดยบริษัทอนุมัติวงเงินให้สูงถึง 80% ปัจจุบันมียอดสินเชื่อเกือบ 40,000 ล้านบาทคาดว่าสิ้นปีจะมีพอร์ตสินเชื่อรวม 43,000 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้าการทำกำไรไว้ที่ 226 ล้านบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook