บัวแก้วปัดข่าวยิงวัยรุ่นเขมรแล้วเผา เชื่อแจงข้อเท็จจริงได้ อักขราทรจี้รัฐบาลแสดงตัวพื้นที่ของเรา

บัวแก้วปัดข่าวยิงวัยรุ่นเขมรแล้วเผา เชื่อแจงข้อเท็จจริงได้ อักขราทรจี้รัฐบาลแสดงตัวพื้นที่ของเรา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บัวแก้วปัดข่าวยิงวัยรุ่นเขมรแล้วเผา รมช.ต่างประเทศกัมพูชาเชิญอุปทูตไทยคุย เชื่อแจงข้อเท็จจริงได้ ประธานศาลปกครองสูงสุดแนะเปิดเจรจากัมพูชา จี้รบ.ทำให้ชัดพื้นที่ทับซ้อนเป็นของเรา น.ส.วิมล คิดชอบ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์กัมพูชาที่อ้างว่าทหารไทยยิงวัยรุ่นกัมพูชาที่เข้าไปตัดไม้พร้อมกับเผาทั้งเป็นว่า กรมกิจการชายแดน กองบัญชาการกองทัพไทย ยืนยันว่าไม่ได้มีการจับกุมใครตามที่มีการกล่าวอ้าง แต่รับว่าได้พบคนลักลอบเข้ามาตัดไม้จริงเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เพียงแต่เตือนให้ออกไปโดยไม่มีการจับกุมหรือปะทะกันแต่อย่างใด

กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้เชิญนายสุวัฒน์ แก้วสุข อุปทูตไทย ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญ ไปพบกับนายอึง เซียน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศกัมพูชาในวันที่ 15 กันยายน โดยฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความห่วงกังวลและไม่สบายใจกับรายงานข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์กัมพูชา และขอให้ฝ่ายไทยช่วยประสานกับหน่วยงานภายใน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งอุปทูตไทยรับว่าจะตรวจสอบและแจ้งผลให้ฝ่ายกัมพูชาทราบต่อไป โดยเชื่อว่าสามารถชี้แจงได้และจะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน น.ส.วิมล กล่าว

นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวถึงกรณีนายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระพร้อมพวกรวม 9 คน ยื่นฟ้องสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา เพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารและขับไล่ประชาชนกัมพูชาออกนอกพื้นที่รอบบริเวณเขาพระวิหาร แต่ศาลแพ่งยกฟ้องว่า เรื่องที่ไม่ควรจะเป็นเรื่อง หากเพียงแค่รัฐบาลไทยแก้ปัญหานี้ด้วยการเปิดเจรจากับประเทศกัมพูชาว่า พื้นที่เป็นอย่างไร เชื่อว่ากัมพูชาน่าจะยอม การทำให้ความจริงเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณรอบปราสาทพระวิหารปรากฏ น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง

นายอักขราทร กล่าวต่อว่า รัฐบาลไทยต้องทำให้กัมพูชาเห็นว่า พื้นที่บริเวณนั้นเป็นที่ของไทย เพียงแต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีชาวบ้านกลุ่มนี้เข้ามาทำมาหากิน และไม่ถูกต้องอย่างไร โดยพื้นที่บริเวณนั้น มีทั้งทหารไทยและกัมพูชาเป็นพยานอยู่ รัฐบาลจึงต้องทำให้เกิดความเข้าใจ อย่าตั้งการ์ดเห็นเป็นศัตรู หรือเป็นคนละฝั่งมันจะจบปัญหานี้ไม่ได้ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต้องทำความเห็นของคนในชาติให้เข้าใจ และหากมีบางส่วนที่บอกไม่ได้ ต้องบอกให้คนไทยรู้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องเก็บไว้ใช้เจรจา ดังนั้นควรพูดให้รู้เรื่องอย่าปล่อยปัญหาทิ้งไว้อย่างนี้

ปัญหาบางอย่างหากมีความเห็นไม่ตรงกัน และใครผิดใครถูกยังไม่รู้ ผมคิดว่าเราสามารถพิสูจน์ความถูกต้องได้ด้วยข้อเท็จจริง เพราะหากปล่อยไปจะกลายเป็นไทยเรายอมรับแผนที่ และสิ่งที่เขากันไว้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่เรามีนักกฎหมาย นักการต่างประเทศและมีคนกลางเก่งๆ มากในประเทศไทยที่จะออกมาช่วยรัฐบาลทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏ ดังนั้นไม่ควรนิ่งเฉย หรือให้เป็นไปตามบุญตามกรรม นายอักขราทร กล่าว

ด้านเครือข่ายสภาประชาชน 4 ภาค และเครือข่ายสภาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด กว่า 200 คน นำโดยนายประพาส โงกสูงเนิน ประธานสภาประชาชน 4 ภาค ชุมนุมบริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เชิญชวนให้ประชาชนออกมาร่วมทวงคืนเขาพระวิหาร รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาล โดยเฉพาะกองทัพออกมาให้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหาร บนพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรหลังมีกระแสข่าวประเทศไทยเสียดินแดนดังกล่าวให้กับฝ่ายกัมพูชาไปแล้ว เช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย รวมตัวกันที่ลานประวัติศาสตร์หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ ก่อนเคลื่อนขบวนรถจักรยานยนต์และรถยนต์กว่า 20 คันไปรอบๆ ตัวเมืองหาดใหญ่ แจกจ่ายใบปลิวรณรงค์ให้ชาวหาดใหญ่เข้าร่วมชุมนุมใหญ่กับกลุ่มพันธมิตรทั่วประเทศเพื่อทวงคืนผืนแผ่นดินเขาพระวิหาร ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ที่อุทยานปราสาทเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตร นัดรวมตัวชุมนุมประท้วงที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ว่า กลุ่มพันธมิตรคงไม่สามารถเข้าไปชุมนุมในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้ เพราะกรมอุทยานฯได้สั่งปิดพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารมาเกือบ 6 เดือนแล้ว หลังจากเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา

ขณะที่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อม นพ.ศุภพล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน และเครือข่ายสมัชชา จ.นครราชสีมา กว่า 20 คน เดินทางเข้าพบ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ที่กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อขอรับฟังรายละเอียดและสถานการณ์ที่ชัดเจนบนปราสาทพระวิหาร แต่ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะชี้แจงแทน

นายไชยวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร บนเขาพระวิหารไม่ได้เป็นพื้นที่ทับซ้อน แต่เป็นพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ แต่ในส่วนสมัชชาฯ เชื่อว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของประเทศไทย ฝ่ายกัมพูชาเองไม่มีสิทธิในการอ้างสิทธิบนพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากศาลโลกได้ตัดสินเพียงว่าตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของฝ่ายกัมพูชาเท่านั้น

สมัชชาฯ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลรับฟังความเห็นจากกองทัพในการแก้ไขปัญหา เพื่อปรับมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยกำหนดให้เข้าถึงเป้าหมายที่สำคัญที่ประชาชนเรียกร้อง คือการผลักดันประชาชนและทหารกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามายังพื้นที่ของประเทศไทยโดยเร็ว นายไชยวัฒน์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook