นาธาน อีก โดนสาวแจ้งจับ

นาธาน อีก โดนสาวแจ้งจับ

นาธาน อีก โดนสาวแจ้งจับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรียกเงิน8หมื่น ฝากงาน ททท. สุดท้ายเงียบฉี่ โดนอีกคดีแล้ว นาธาน โอมาน ล่าสุดสาววัย 27 แจ้งจับฐานลวงเรียกเงินเกือบแสนบาท อ้างสามารถฝากเข้าทำงานใน ททท. สุดท้ายไม่เป็นไปตามอ้าง โดยทวงถามขอเงินคืนก็เงียบ ส่วนคดีอมเงินลูกทัวร์ไปเนปาลจบลงด้วยดี เมื่อ 4 สาวเดินทางไปรับเงินที่ฝากเคลียร์ที่ สน.หัวหมาก ส่วนคดีร้านกาแฟยังไม่เคลียร์ ดีเจ.สาว เลยแจ้งจับอีกราย

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 31 ส.ค. น.ส.จารุพรรณ วีระวัฒนาเดช อายุ 31 ปี พร้อมด้วย น.ส.รัตติกร โลหชลิตานนท์ อายุ 37 ปี, น.ส.นิธิวรรณ รัตสุทธิกุล อายุ 30 ปี และ น.ส.สรัญญา สิทธิธีรรัตน์ อายุ 31 ปี เดินทางไปยัง สน.หัวหมาก หลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งกับบุคคลทั้ง 4 ที่เคยซื้อทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศกับ "นาธาน โอมาน" ดารา-นักร้อง แต่ปรากฏว่ากรุ๊ปทัวร์ยกเลิก และไม่มีการคืนจนเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.หัวหมาก เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่านาธาน นัดให้มาไกล่เกลี่ยคืนเงินจำนวนดังกล่าว เมื่อทั้ง 4 คนเดินทางมาถึง สน.หัวหมาก จึงเข้าพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเวลา 15 นาที

จากนั้น น.ส.จารุพรรณ 1 ใน 4 ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจนัดมาเพื่อให้ไกล่เกลี่ยและรับเงินค่าทัวร์คืนจากนาธาน หลังจากที่มาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทางตำรวจแจ้งว่านาธาน ให้คนสนิทนำเงินค่าเสียหายทั้งหมดจำนวน 77,000 บาท มาฝากไว้กับตำรวจแล้วเมื่อช่วงเช้า ทางเจ้าหนาที่ตำรวจก็มอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับพวกตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลังจากรับเงิน ก็ทำเรื่องถอนแจ้งความทั้งหมด เพราะถือว่าเขานำเงินมาคืนแล้ว จากนั้นทั้ง 4 สาวเดินทางกลับ

ต่อมา น.ส.อรทัย ยิ้มละม้าย อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 15 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อดีตพนักงานฝ่ายบัญชีโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ "นาธาน โอมาน" โดย น.ส.อรทัย กล่าวหาว่า เมื่อประมาณเดือน ต.ค.51 รู้จักกับนาธาน หลังจากที่คุยกันถูกคอ นาธาน ทราบว่า ตนต้องการจะทำงานที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ฝ่ายการพัฒนาเศรษฐกิจต่างประเทศ นาธานจึงเสนอว่า รู้จักกับทางเลขาหน้าห้องผู้ใหญ่ชื่อ "รจนา" สามารถฝากเข้าทำงานได้ 100% แต่จะต้องมีค่าดำเนินการ ตนอยากทำงานดังกล่าวจึงยินยอมที่จะจ่ายเงิน โดยตกลงกันว่าจ่ายเป็น 2 งวด งวดแรกจ่ายไป 69,000 บาท งวดที่ 2 จ่ายเพิ่มอีก 9,000 กว่าบาท รวมเป็นเงิน 78,780 บาท โดยมีการออกใบเสร็จให้ ประทับตราของ ททท.ที่ด้านบนของใบเสร็จด้วย แต่ระบุเงิน 75,600 บาท นาธานบอกว่าทาง ททท. ออกมาให้แค่นี้ ตอนนั้นตนไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นว่าสนิทกัน

"ต่อมาเดือนเม.ย.ที่ผ่าน มา หลังไปเข้าสอบเพื่อทำงานที่หน่วยงานดังกล่าว แต่เมื่อผลสอบออกมาว่าไม่มีชื่อติด จึงโทรศัพท์ไปหานาธานหลายครั้ง แต่ละครั้งเขาก็จะบอกว่าอยู่ต่างประเทศ อาทิ เดนมาร์ก นอร์เวย์ และก็แถบดูไบ กำลังถ่ายหนังอยู่ และบอกว่าจะนำเงินมาคืนให้ แต่ผ่านไปนานเขาก็ยังไม่คืนเงินและก็ผัดผ่อนมาตลอด โดยให้เหตุผลว่าต้องไปเอาเงินที่สำนักงาน ททท. เพื่อเอามาคืน จนเมื่อ 2-3 วันก่อนเขาบอกว่าเขาอยู่กรุงเทพฯ และจะคืนเงินให้แบบครบทุกบาททุกสตางค์ไม่เกินสิ้นเดือน ก.ย.นี้ แต่ไม่อยากเชื่อเพราะเขาบอกแบบนี้มาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้รับเงินคืน"

น.ส.อรทัย กล่าวต่อว่า รู้จักกับนาธาน เพราะพี่สาวรู้จัก ส่วนตัวเคยไปทานข้าวกับนาธานและโทร.คุยส่งเมสเสจหากันเป็นประจำ ถือว่าสนิทกันระดับหนึ่งเวลาพูดคุยกันเขาน่าเชื่อถือ ไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนี้ ยอมรับว่าเสียความรู้สึกเพราะตนรักและเคารพเขาเหมือนพี่ชาย

ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้ตัวว่าโดนโกงเมื่อไร น.ส. อรทัย กล่าวว่า ตนทวงเงินนาธานมาเรื่อยๆ แต่มารู้ว่าโดนหลอกเมื่อทราบข่าวของเขากับดีเจ.เจเจ-จามจุรี แคสเบอร์ จึงโทร.เข้าไปปรึกษากับดีเจ.เจเจ ผ่านทางคลื่นวิทยุว่าเราอยากได้เงินคืน หลังจากนั้นดีเจ.เจเจ โทร.กลับมาหาและแนะนำให้มาแจ้งความที่ สน.หัวหมาก ตนอยากได้เงินคืนจึงมาแจ้งความไว้ แต่ถ้าทางนาธานนำเงินมาคืนก็จะถอนคดีความทันที

ขณะที่ น.ส.อรทัย ให้ปากคำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นั้น น.ส.จามจุรี แคสเบอร์ หรือ "ดีเจ.เจเจ" น.ส.นพวรรณ ทองเจริญ พร้อม น.ส.นพรัตน์ ภูมิเมือง และ น.ส.ลสา ศักดิ์ดนุเดช คู่กรณีของนักร้องดัง เดินทางมายัง สน. หัวหมาก เช่นกัน เพราะเป็นวันที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดนาธาน นำหลักฐานเอกสารการจ่ายเงินต่างๆ ในการทำร้านมายืนยันกับเจ้าพนักงาน แต่ปรากฏว่าทางนักร้องหนุ่ม ไม่ได้เดินทางมาตามนัด ทำให้ ดีเจ.สาว และหุ้นส่วนจึงแจ้งความดำเนินคดี

น.ส.จามจุรี เผยว่า วันนี้ตำรวจนัดให้นาธานเอาเอกสารเกี่ยวกับเงินมายืนยันว่าจ่ายค่าประกันบ้าน และค่าเช่าบ้านล่วงหน้าครบแล้วแต่นาธานไม่มา จึงแจ้งความดำเนินคดีฉ้อโกงกับนาธานและปรึกษากับ พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก. ทางผู้กำกับฯ บอกว่า ถ้าดูจากรูปคดีและมีผู้มาแสดงตัวเป็นผู้เสียหายเพิ่ม ก็สามารถออกหมายเรียกมาสอบปากคำได้ และถ้าออกหมายเรียกไป แล้วถึง 2 ครั้งแล้วคู่กรณียังไม่มาให้ปากคำก็สามารถที่จะออกเป็นหมายจับได้เลย สาเหตุที่คดีล่าช้า เพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีล่าช้า ทางผู้กำกับฯ จึงเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ดูแลคดีคนใหม่เป็น ร.ต.อ.สมเจตน์ พลเหลา สบ.1 และบอกว่าจะออกหมายเรียกในวันที่ 2 ก.ย. ถ้าใน 15 วัน ไม่เข้ามาพบก็จะมีหมายจับตามมา

น.ส.จามจุรี กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. นาธานยืนยันว่ามีสลิปจ่ายเงินครบแล้วทุกใบ ร.ต.อ.สมเจตน์ เป็นพยานในห้องไกล่เกลี่ยวันนั้น บอกว่าให้เวลาเขารวบรวมเอกสารก่อน หลังจากนั้นเราไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากนาธานทั้งสิ้น แล้ววันนี้ที่มีการนัดดูเอกสารสลิปเงินที่จ่าย เขาก็ไม่มา ถ้าเขาเอาเอกสารมาโชว์ว่าจ่ายครบก็จบ แต่นี่ไม่มี เราจึงต้องแจ้งความเพื่อไม่ให้คดีหมดอายุความ เพราะตอนแรกเราเพียงแค่ลงบันทึกประจำวัน เพราะเราคิดว่าจะได้ไกล่เกลี่ยกันง่ายๆ สิ่งที่เราต้องการเพียงแค่ให้เขารับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำเสียหายไป ไม่ได้ต้องการเงินจากเขาเพิ่มเติม

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook