กกต.ยื้ออีก30วัน สอบเงินทีพีไอ258ล้านจ่ายปชป. ชี้ยังสอบพยานไม่ครบ ย้ำไม่มีวาระซ่อนเร้น-ปัดซื้อเวลา

กกต.ยื้ออีก30วัน สอบเงินทีพีไอ258ล้านจ่ายปชป. ชี้ยังสอบพยานไม่ครบ ย้ำไม่มีวาระซ่อนเร้น-ปัดซื้อเวลา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ว่า ที่ประชุมกกต. ได้รับทราบผลการสอบสวนของอนุกรรมการไต่สวนกรณีเงิน258 ล้านบาทที่มีการกล่าวหาว่า บริษัท ทีพีไอโพลีนให้เงินแก่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ผ่านบริษัทเมซไซอะฯและเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเมื่อปี 2548 ซึ่งอาจมีการกระทำต้องห้ามตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองแล้วและมีมติให้คณะอนุกรรมการไปสอบสวนพยานเอกสารและพยานบุคคลเพิ่มเติมโดยให้เวลา 30 วันซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 25 กันยายนนี้ เนื่องจากรายงานการสอบสวนของอนุกรรมการนั้นทาง กกต.เห็นว่ายังมีพยานบุคคลและพยานเอกสาไม่ครบถ้วน ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมจึงเห็นควรให้อนุกรรมการไปสอบสวนเพิ่มเติม

ที่ประชุม กกต.เห็นว่า อนุกรรมการยังไม่ได้เรียกนายทะเบียนพรรคการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้บริจาคเงินให้ รวมถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ขณะนั้นเป็นรองหัวหน้าพรรค รวมทั้งยังขาดเอกสารรายการเสียภาษีเงินได้จากกรมสรรพากรที่อนุกรรมการได้ขอไปแต่ยังไม่ได้เอกสารดังกล่าวมา อีกทั้งพยานที่จะต้องสอบเพิ่มเติมล้วนแต่เป็นพยานที่อนุกรรมการยังไม่เคยเรียกมาสอบด้วย ประกอบกับอนุกรรมการได้สอบสวนที่ผ่านมาโดยใช้ดุลพินิจว่าได้สอบตามประเด็นครบถ้วนแล้ว แต่กกต.ได้ใช้ดุลพินิจเห็นว่ากรณีดังกล่าวยังสอบพยานไม่ครบถ้วน นายสุทธิพล กล่าว

นายสุทธิพล กล่าวว่า ขอยืนยันว่า กกต.ดำเนินการโดยไม่มีวาระซ่อนเร้น เพราะ กกต.พิจารณาโดยความซื่อสัตย์สุจริต อีกทั้งกกต.ก็ยังไม่ได้มีการลงมติแต่อย่างใด จึงขอความเห็นใจและขอความเป็นธรรมให้กกต.ด้วย เพราะกกต.ต้องการสอบให้สุดทางเพื่อให้เวลาวินิจฉัยจะได้ไม่ถูกครหาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ได้ ทั้งนี้ยืนยันจะไม่มีการเปลี่ยนอนุกรรมการไต่สวนแต่อย่างใด โดยกกต.จะให้อนุกรรมการได้ทำงานอย่างอิสระไม่ไปก้าวล่วงดุลพินิจของอนุกรรมการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook