ช่วยเสริมบารมีนายใหญ่
ทีแรกผมยังนึกว่านายกฯ ของประเทศไทย โดนอุ้มไปเก็บ ตัวไว้ที่เซฟเฮาส์ ไหนซักแห่งหนึ่ง หรือเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองตามที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยชอบออกมาปล่อยข่าวอยู่บ่อย ๆ ในทำนองว่า ช่วงนี้อาจจะมีการปฏิวัติรัฐประหาร แต่มารู้ในภายหลังว่าเกิดปัญหาด้านเทคนิคบางประการ (จะเชื่อดีไหมเนี่ย) และถือว่าเป็นครั้งที่สามที่เกิดปัญหาขึ้นมา จนทำให้การแพร่ภาพต้องล่าช้าออกไปเกือบ 2 ชั่วโมง ดูแล้วก็น่าเห็นใจนายกฯอภิสิทธิ์
เหมือนกับช่วงนี้มีบางคนพยายามจะวางยา ทั้งทำให้เสียหน้าหรือถึงขั้นต้องเสียเก้าอี้นายกฯ เรียกว่าทำทุกวิถีทาง ผมอยากถามว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรครับกับสื่อของรัฐที่มีรถถ่ายทอดสดมากที่สุด แต่พอมีปัญหาเกิดขึ้น กลับไม่มีการวางแผนหรือเตรียมการรองรับ
โดยเฉพาะประเด็นการขัดข้องทางเทคนิคจากสัญญาณที่ยิงจากรถถ่ายทอดสดที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี อัพลิงก์ไปยังดาวเทียมเพื่อส่งสัญญาณไปยังผู้ชมทั่วประเทศเกิดขัดข้อง ฟังดูแล้วหลาย คนก็ออกอาการงง ๆ อย่าลืมว่าคนชวชชาชีวะ มีตำแหน่งเป็นนายกฯ นะครับ
จำได้สมัย พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกเข้าไปยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ทีวีของรัฐยังสามารถออกอากาศได้เลย แถมยังถ่ายทอด สดช่วงพิธีกรหรือผู้ดำเนินรายการ ทำสงครามด้านสื่อเพื่อสู้กับคนเสื้อเหลือง เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นเลยครับว่า รัฐบาลทำงานมาเกือบ 8 เดือน พรรคประชาธิปัตย์ยังคุมสภาพการทำงานของหน่วยงาน รัฐไว้ไม่ได้
ผมจึงอยากแนะนำว่า ถ้าหากในอนาคตหากจนปัญญาจริง ๆ เรื่องการใช้สื่อของรัฐ มาช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผู้นำรัฐบาล ลองติดต่อทีมงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาช่วยทำทั้งวิดีโอลิงก์ หรือโฟนอิน ให้ นายใหญ่ ยึดพื้นที่สื่อได้ตลอด มาช่วยทำรายการให้นายกฯอภิสิทธิ์บ้างก็ได้นะครับ
ถ้าหากใครติดตามการทำกิจกรรมของแกนนำ นปช. และคนเสื้อแดง เวลานายใหญ่สื่อสารมายังมิตรรักแฟนเพลง สัญญาณแทบไม่มีการติดขัด หรืออุปสรรคอะไรเลยครับ
ดูเอาเถอะขนาดเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวให้บรรดาสาวกที่รักและชื่นชอบมาช่วยกินฟรี เพื่อวัดบารมีกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ยังได้สื่อของกรม ปชส. มาช่วย โปรโมตให้อย่างเต็มที่ ทั้งสัมภาษณ์เจ้าของร้านหรือทีมงานซึ่งทำหน้าทีชื่อมต่อสัญญาณให้ นายใหญ่ โฟนอินเข้ามา คง หวังจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนไปร่วมงานเยอะ ๆ
ทำให้ผมอดคิดไปถึงในยุคที่ นายสมัคร สุนทรเวช และ นายดุสิต ศิริวรรณ เคยใช้สื่อของ อสมท และกรมประชา สัมพันธ์ โจมตีและวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายตรงข้าม พอมายุค ประชา ธิปัตย์ นายใหญ่ก็ยังใช้สื่อของรัฐมาจุดประเด็นเพื่อสร้างกระแส ให้ตนเองกลับมาเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง
แค่นี้ก็รู้แล้วครับว่า นายใหญ่ และ นายหญิง ยังมีบารมีอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนมากแค่ไหน ใครที่คิดว่าอดีตนายกฯ จบแล้วต้องคิดใหม่ แถมจากนี้ไปยังรุกหนักด้านสื่อให้มากขึ้นด้วยซ้ำ ไล่ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. จัดรายการผ่านคลื่นวิทยุทางอินเทอร์เน็ต พอวันที่ 1 พ.ย. เปิดทีวีดาวเทียมร้อยช่อง ของนายใหญ่ก็จะเริ่มแพร่ภาพอีก
เห็นนายใหญ่เปิดเกมรุกด้านสื่อเต็มรูปแบบอย่างนี้ ผมไม่รู้ว่า รมต.สำนักนายกฯ ที่คุมกระบอกเสียงของรัฐ จะมีกึ๋นพอรับมือไหวหรือไม่.