ชะลอขายที่หมื่นไร่ ''เอื้ออาทร'' หลังรัฐอัดฉีดกคช.3พันล้านบาท
แหล่งข่าวจากการเคหะแห่งชาติ(กคช.) เปิดเผย
ฐานเศรษฐกิจ ว่า ตามที่การเคหะฯ มีแผนนำที่ดินทั่วประเทศ ซึ่งเป็นทั้งที่ดินที่เกิดจากการยกเลิกดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร 130 โครงการ 6,600 ไร่ และ ที่ดินที่การเคหะฯซื้อสะสมไว้รอการพัฒนาอีก ประมาณ 8,000-9,000 ไร่ ทยอยออกขาย ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2552 หรือ กันยายนที่จะถึงนี้ เพื่อลดปัญหาขาดทุนที่คาดว่าไม่น่าต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ตามแผนจะเปิดโอกาสให้เอกชนที่สนใจ หรือเจ้าของที่ดินรายเดิมที่เคยเสนอขายให้กับ
การเคหะฯ เพื่อทำโครงการบ้านเอื้ออาทร สามารถร่วมประมูลและนำไปพัฒนาต่อได้ และ ที่ดินในโครงการเคหะชุมชนร่มเกล้า ในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ดินในโครงการเมืองใหม่บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ที่ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ ซึ่งระยะแรกจะนำออกขายจำนวน 30 แปลง ราคาขายเฉลี่ย ไร่ละ 2-4 ล้านบาท และเตรียมเสนอคณะกรรมการการเคหะฯ เห็นชอบ และเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นลำดับต่อไป
ล่าสุดผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ มีนโยบายชะลอการขายที่ดินในปีงบประมาณ 2552 ทั้งหมดไว้ก่อน โดยให้เหตุผลว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้สนับสนุนงปบระมาณกว่า 3,000 ล้านบาท ช่วยไม่ให้การเคหะฯขาดทุน ติดต่อกัน 3 ปี หรือตั้งแต่ปีงบประมาณ 2550-2552 ส่งผลให้การเคหะฯสามารถเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการต่อเนื่องให้เกิดผลกำไรได้ ซึ่งหากรัฐบาลไม่ช่วยเหลือ จะมีปัญหาตามมาคือ กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินกู้ให้ และอาจมีผลถึงขั้นไม่สามารถกู้สถาบันการเงินได้อีก
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า โดยเบื้องลึกแล้วที่ผ่านมา บอร์ดการเคหะฯ ไม่เห็นด้วยกับการเคหะฯที่จะนำที่ดินที่เกิดจากการชะลอโครงการบ้านเอื้ออาทรออกขาย เพราะอาจมีปัญหาการฟ้องร้องจากผู้ประกอบการที่เสียประโยชน์ และ อาจมีปัญหาในข้อกฎหมายเนื่องจากเป็นโครงการของรัฐบาล อีกทั้งหากมีการขายไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ หรือขายในราคาที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ก็จะมีผลกระทบตามมาทางด้านกฎหมายได้
