สดศรียันลงมติฟัน 44 ส.ส.ถือหุ้นสัมปทานรัฐ 18ส.ค. จี้จัดหมวดหมู่หุ้นต้องห้าม
เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวจะขอมติจากที่ประชุมกกต.เพื่อขยายเวลาในการจัดหมวดหมู่ให้อนุกรรมการหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่ต้องยืดเวลาแล้ว เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้เรียกอนุกรรมการชุดดังกล่าวมาดูแล้วว่ามีข้อบกพร่องอะไรให้ดำเนินการให้ครบถ้วน ซึ่งทางอนุกรรมการก็ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้ครบถ้วนจัดหมวดหมู่ให้ถูกต้องก่อนเสนอเพิ่มเติมเข้าสู่ที่ประชุม กกต.เพื่อพิจารณาในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้อยู่แล้ว เพราะหาก กกต.เรียกมาตรวจดูก่อนจะถึงวันพิจารณาลงมติก็ง่ายกว่าจะมาตรวจในวันที่พิจารณา เพราะอนุกรรมการต้องไปดูรายงาน ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ด้วยว่าเป็นหุ้นอะไร ซึ่งได้บอกทางอนุกรรมการไปแล้วให้จัดหมวดหมู่ จึงเป็นเรื่องที่จะเสนอเพิ่มเติมต่อกกต.ได้อยู่แล้ว
นางสดศรี กล่าวว่า ส่วนจะมีบริษัทเข้าลักษณะต้องห้ามที่ต่างจากกรณีของ 16 ส.ว.และ 13 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ส่วนใหญ่พบว่าจะเป็นบริษัทต้องห้ามที่ซ้ำกับกรณีของส.ว.และส.ส.ที่กกต.เคยพิจารณาไปแล้ว แต่ก็มีบางบริษัทที่เพิ่มเข้ามาใหม่ว่าเป็นบริษัทที่ส.ส.จะต้องไม่ถือหุ้นดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้กกต.จะต้องดูว่าการจัดหมวดหมู่ของอนุกรรมการว่าหุ้นตัวใดเป็นหุ้นกู้และหุ้นสามัญหรือไม่ อีกทั้งความเห็นของกกต.ไม่จำเป็นต้องยืนตามอนุกรรมการเสมอไป