มาร์คยันไม่ผลักภาระปชช. สัปดาห์นี้ลดดีเซลไม่เกิน30บาท/ลิตร ตรึงราคาเอ็นจีวี-แอลพีจีถึงส.ค.ปีหน้า

มาร์คยันไม่ผลักภาระปชช. สัปดาห์นี้ลดดีเซลไม่เกิน30บาท/ลิตร ตรึงราคาเอ็นจีวี-แอลพีจีถึงส.ค.ปีหน้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ เป็นครั้งที่ 30 ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยว่า ปัญหาราคาน้ำมันนั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลไปผลักภาระให้กับประชาชนกรณีภาษีสรรพสามิตน้ำมัน โดยเฉพาะช่วงการเลือกตั้ง 2550 ตนเคยบอกว่าจะลดภาระในเรื่องนี้จึงอยากในช่วงที่หาเสียงเลือกตั้งนั้นราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ที่ 60-70-80 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งค่อนข้างที่สูง ในช่วงหาเสียงพรรคการเมืองต่างๆ พูดกันตนเองเลยเสนอว่า น่าจะมีการลดภาระการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน แต่หลังเลือกตั้งมาแล้ว ปรากฎว่า ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ช่วงหนึ่งสูงถึง 140 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งในช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงสุด รัฐบาลก่อนได้มีการไปใช้มาตรการด้านภาษี คือยกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตทั้งหมด ทำให้โครงสร้างนี้เปลี่ยนแปลงไปอีก เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้น รัฐบาลชุดนี้เข้ามา มาตรการยกเว้นภาษีสรรพสามิตก็หมดอายุ แต่ราคาน้ำมันได้ลดต่ำลงมาถึงระดับทะมาณ 30 -40 เหรียญต่อบาร์เรลในตลาดโลก เราจึงต้องหันกลับมาใช้ระบบภาษีสรรพสามิตและเพิ่มเติมขึ้นเล็กน้อยตามแนวโน้มของโลก ซึ่งทั่วโลกก็จะจัดเก็บภาษีเพิ่มมากขึ้นอยู่แล้วเพราะไม่สนับสนุนให้คนใช้น้ำมัน หรือเชื้อเพลิงมาก แต่เราได้ปรับเพิ่มภาษีขึ้นมาและบริหารจัดการกองทุน เพื่อให้สถานะกองทุนและสถานะการคลังมีความมั่นคง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลได้ดำเนินการเรื่องนี้แล้ว ปรากฏว่า 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านราคาน้ำมันในตลาดโลกได้พุ่งกลับมาอยู่ที่เกิน 70 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นจุดที่รัฐบาลพร้อมทบทวนนโยบาย จึงได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาปรึกษาหารือกันแล้วเรามองว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจาก 70 เหรียญในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเป็น 80, 90 หรือ 100 เหรียญต่อบาร์เรล ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำแน่นอนคือ 1. ทำอย่างไรให้น้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญ และโดยเฉพาะน้ำมันที่พี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อยใช้ เช่น น้ำมันดีเซลจะไม่แพงจนเกินไป ซึ่งขณี้อาจจะอยู่ที่ประมาณ 28-29 บาทต่อลิตร แล้วจะไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร กับ 2. ที่ผ่านมาเรายอมเจ็บอยู่บ้างจากนโยบายภาษีสรรพสามิตน้ำมัน แต่ก็ทำให้รัฐบาลมีกำลังมากขึ้น จึงต้องเก็บเงินเอาไว้เพื่อไว้ต่อสู้ในยามที่ราคาน้ำมันแพง เพราะฉะนั้นในสัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณาทั้งในส่วนของการส่งเงินเข้ากองทุนและเงินต่าง ๆ ที่รัฐจัดเก็บอยู่ และออกมาตรการบรรเทาไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร

อนาคตถ้าราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นไปอีก ก็ได้พูดกันว่าอย่างน้อยที่สุดกองทุนน้ำมันไม่ควรจะเป็นภาระกับพี่น้องประชาชน คือจะเก็บเข้าเพื่อประโยชน์ในการอุดหนุนบางเรื่องเท่านั้น โดยตั้งใจจะตรึงทั้งก๊าซหุงต้มและเอ็นจีวีไว้จนถึงสิงหาคมปีหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือก๊าซโซฮอล์ อี 20 อี 85 ไปจนถึง บี 5 ไบโอดีเซล โดยสัปดาห์หน้าจะมีมาตรการเรื่องนี้ออกมา และได้วางแผนล่วงหน้าแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook