ยันดัชนีหมัดในหนูยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

ยันดัชนีหมัดในหนูยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเรือคลองเตย นพ.พลายยงค์ สการะเศรณี นายสัตวแพทย์ กรมควบคุมโรค และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบกรงดักหนูที่วางไว้จำนวน 35 กรง โดยสามารถจับหนูเพื่อนำมาสางหมัดตรวจวัดดัชนีหมัด โดยจับหนูได้ 6 ตัว ถือว่ามีความชุกของหนูน้อยมากที่จะแพร่เชื้อสู่คน และนำมาสางหมัด เจาะเลือดหนูที่ขั้วหัวใจ นำอวัยวะภายในมาชุบสี โดยเจ้าหน้าที่ได้วางยาสลบหนูเพื่อนำมาสางหาหมัด พบว่า มีหมัดเพียง 3 ตัวเท่านั้น คิดเป็นค่าดัชนีหนูเพียง ร้อยละ 0. 5 จึงถือว่ามีความเสี่ยงโรคกาฬโรคน้อย ขณะที่ค่ามาตรฐานความเสี่ยงอยู่ที่ ร้อยละ 1 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เก็บตัวอย่างเลือดหนูไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการว่ามีเชื้อโรคอะไรบ้าง รวมถึงนำม้ามของหนูทุกตัวไปตรวจว่ามีเชื้อแบคทีเรียกาฬโรคหรือไม่ ซึ่งหนูที่ดักจับได้ทุกตัวเจ้าหน้าที่จะนำไปกำจัดทำลายทั้งหมด เพื่อสุขอนามัยของประชาชน ต่อมาเมื่อเวลา 12.45 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการเตรียมพร้อมตอบภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวถึงกรณีที่มีการระบาดโรคกาฬโรคปอดในมณฑลชิงไห่ ประเทศจีน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3 ราย และมีผู้ป่วยอีก 12 ราย ว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลก(ฮู) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและประเมินสถานการณ์โรคระบาดแล้ว โดยจีนยืนยันว่ามีการป้องกันารแพร่กระจายโรคอย่างเต็มที่ และยังไม่มีสัญญาณที่สถานการณ์จะรุนแรงมากกว่าเดิม ซึ่งจากข้อมูลการระบาดพบว่า โรคกาฬโรค พบได้บ่อยในหลายประเทศแต่ไม่ใช่กาฬโรคปอดที่สามารถแพร่จากคนสู่คนได้ เช่น ประเทศเวียดนาม พม่า และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น แต่เป็นการระบาดในพื้นที่เฉพาะ และอุบัติซ้ำในที่เดิม ไม่ระบาดไปยังพื้นที่อื่น ส่วนใหญ่ระบาดในหมู่บ้านที่ห่างไกล หรือใกล้เขตป่า เป็นต้น นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยถือว่ามีความเสี่ยงน้อยมากที่โรคกาฬโรคจากประเทศจีนจะแพร่ระบาดเข้าสู่ไทยได้น้อยมาก แต่กระทรวงสาธารณสุขไทย ไม่ประมาท โดยได้สั่งการให้ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทั้ง 64 ด่าน ให้ตรวจเข้ม โดยเฉพาะด่านควบคุมโรคฯ ที่มีการติดต่อการค้า ขนส่งสินค้าจากประเทศจีนเข้าสู่ไทย ซึ่งมี 3 แห่ง คือ เชียงแสน มุกดาหาร และหนองคาย ซึ่งมีการขนส่งสินค้าจากประเทศจีนตอนใต้ แต่ยังไม่มีการขนส่งสินค้าจากมณฑลชิงไห่มายังไทย เพราะอยู่ห่างไกลจากพรมแดนไทยประมาณ 2,000-3,000 กิโลเมตร นพ.โอภาส กล่าวว่า มาตรการตรวจเข้ม คือ 1.ให้ติดตามสถานการณ์การะบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง และ2.ให้ตรวจสอบสุขาภิบาลพื้นที่โดยรอบด่านฯ และยานพาหนะทุกชนิดที่เดินทางผ่านด่านฯ ทั้งเรือบรรทุกขนาดใหญ่ รถบรรทุกขนาดใหญ่ โกดังเก็บสินค้า เป็นต้น หากพบร่องรอยของหนู ไม่ให้ผ่านเข้าประเทศเด็ดขาด โดยได้สั่งการให้ด่านควบคุมโรคฯ เฝ้าระวังพิเศษทั้ง 3 ด่าน ดังกล่าว ให้เร่งทำการดักจับหนูเพื่อตรวจวัดหาค่าดัชนีหมัดหนูทันที โดยทำต่อเนื่องให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นพ.โอภาส กล่าวว่า รวมทั้งให้ดำเนินการแก้ไขทำความสะอาดให้ปราศจากหนูก่อน ซึ่งเป็นมาตรการที่ทำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ จะมีเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าไปตรวจสอบเรือตามกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองก่อนที่จะนำเรือมาเทียบท่า เช่น กัปตันเรือเป็นใคร มีลูกเรือกี่คน ในรอบ 3 วันก่อนได้ไปเทียบท่าที่เมืองใด ประเทศใดบ้าง สุขภาพของลูกเรือเป็นอย่างไร หากพบว่ามีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง จะไม่อนุญาตให้เรือเทียบท่าอย่างเด็ดขาด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook