ลูกสาวหัวใจสลาย เล่านาทีพบศพแม่ถูกฆ่าโบกปูนในบ่อส้วม ส่งพ่อเข้าคุกทั้งน้ำตา

ลูกสาวหัวใจสลาย เล่านาทีพบศพแม่ถูกฆ่าโบกปูนในบ่อส้วม ส่งพ่อเข้าคุกทั้งน้ำตา

ลูกสาวหัวใจสลาย เล่านาทีพบศพแม่ถูกฆ่าโบกปูนในบ่อส้วม ส่งพ่อเข้าคุกทั้งน้ำตา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี นายพิส อายุ 53 ปี อาชีพช่างปูน ชาวบ้านนาซอ หมู่ 1 ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ก่อเหตุฆ่าทุบศีรษะภรรยา และนำไปทิ้งลงในท่อส้วมหลังบ้านและโบกปูนปิดอำพรางศพ ส่วนผู้ตาย คือ นางบุญเลิศ อายุ 49  ปี เหตุเกิดเช้าวันที่ 6 พฤษภาคม 2563  บริเวณหลังบ้านไม่มีเลขที่ ห่างจากหมู่บ้าน นาซอ หมู่ 1 ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ประมาณ 100 เมตร  ซึ่งเป็นบ้านพักที่กำลังก่อสร้างขึ้นใหม่

เบื้องต้นทางตำรวจได้ แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังอำพรางศพ ส่วนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งทางตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ได้มีการตรวจสอบ เก็บหลักฐาน ไว้ประกอบการดำเนอินคดีทั้งหมด ทั้งนี้ทางด้าน พล.ต.ต.ภานุ บุรณศิริ รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ช่วยราชการ รักษาราชการแทน ตำแหน่ง รอง ผู้บัญชาการตำรวจ ภูธรภาค 4 สรุปยืนยัน คดีดังกล่าวสามีเป็นคนลงมือฆ่าเพียงคนเดียว จากความคับแค้นใจที่ภรรยาไปมีชู้กับชายอื่น และเป็นปัญหาในครอบครัว ไม่มีปมฆาตกรรมเรื่องอื่น และมีการสอบสวนพยานหลักฐานชัดเจน และเจ้าตัวสารภาพทุกข้อกล่าวหา ซึ่งตำรวจจะได้ดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป 

ขณะเดียว ในช่วงก่อนการแถลงข่าว ได้มี นางสาวบี  (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ลูกสาวคนโตของผู้ตาย ได้เดินทางมาขอพูดคุยกับพ่อ พร้อมนำน้ำ ขนม มาให้พ่อรับประทาน ก่อนโผเข้ากอดร้องให้กับพ่อ ด้วยความสงสารพ่อ และให้กำลังใจผู้เป็นพ่อไปรับกรรมตามกฎหมาย ในความผิดที่ก่อขึ้น และยังเปิดเผยกับพ่อว่า เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้โกรธพ่อ แต่พ่อไม่น่าจะทำแบบนี้ เพราะสุดท้ายไม่คุ้มกับสิ่งที่ทำลงไป

ยอมรับว่า พ่อกับแม่มีพฤติกรรมทะเลาะกันมานาน และรับรู้ว่าแม่มีพฤติกรรมเชิงชู้สาว แต่ถือว่าเป็นเรื่องของพ่อแม่ เคยพยายามห้ามให้แม่ปรับตัวและขอให้พ่อให้อภัยมาหลายครั้ง แต่ไม่เคยเลิกรากัน สุดท้ายไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับครอบครัว ถึงแม้พ่อทำผิดยังสงสารพ่อ แต่ก็ต้องรับผิดตามกฎหมาย ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่คิดว่า พ่อจะทำร้ายแม่ถึงตาย ตนพยายามตามหา จนกระทั่งเช้าวันนี้ ผิดสังเกต ว่าท่อส้วมหลังบ้านโบกสนิท ทั้งที่ยังทำไม่แล้วเสร็จ ถามพ่อไม่ยอมบอก สุดท้ายตัดสินใจพาญาติมาเจาะทุบดู เปิดขึ้นมาพบศพแม่อยู่ในท่อ จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ขณะที่พ่อยังไปทำงานรับจ้างปกติ

ภายหลังการสอบสวนของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ นายพิส อายุ 53 ปี  อาชีพช่างปูน ผู้ก่อเหตุให้การกับตำรวจว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับภรรยามานานเกือบ 30 ปี เคยไปทำงานต่างประเทศเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และอยู่กินกันทำไร่ทำนา รับจ้างเป็นช่างปูน ทำงานรับเหมาก่อสร้างทั่วไป มีลูกทั้งหมด 3 คน เป็นหญิงคนโต 1 คน และชายอีก 2 คน ซึ่งลุกชายคนที่ 2 ตนยังส่งเสียเรียนจนจบวิศกรช่างไฟฟ้า ทำงานที่ กทม. ส่วนคนเล็กพิการแขนขาลีบ โดยที่ผ่านมาอดทน ทำงานสร้างครอบครัวมาตลอด ไม่คิดว่าภรรยาจะปันใจให้ชายอื่น มีปัญหาทะเลาะกัน มีปากเสียงกัน ภรรยาบอกเลิกแต่ตนไม่เลิก ทำให้คับแค้นใจ เคยแม้กระทั่งจับได้อยู่กับชายอื่น ทะเลาะกัน ซ้ำร้ายฝ่ายหญิงยังท้าทาย บอกว่าตนใจไม่ถึงไม่กล้าตัดสินใจ และไม่กล้าทำร้าย

ในที่สุดก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ตนได้พูดจาลวงให้ภรรยา มานอนที่บ้านหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้าง จุดเกิดเหตุ จนมีปากเสียงทะเลาะกัน และภรรยาท้าทายว่า หากแน่จริงให้ฆ่าตน ถ้ากล้า พูดท้าทายตอกย้ำหลายครั้ง จึงโมโหสุดขีด และตัดสินใจฉวยโอกาสขณะผู้ตายไปอาบน้ำหลังบ้าน คว้าอิฐบล็อกทุบเข้าที่ศีรษะไปครั้งแรก ไม่แรงมาก ทำให้ผู้ตายพูดต่ออีกว่า ไม่กล้า จากนั้นจึงตัดสินใจใช้เหลี่ยมทุบซ้ำจนหมดสติ พอรู้ว่าตายจึง นำศพมานอนบนแคร่ไม้หลังบ้าน และนำไปทิ้งลงท่อส้วม หลังบ้าน ที่กำลังก่อสร้าง ยังไม่เสร็จ และตัดสินใจโบกปูนปิดให้สนิท ไม่ให้คนเห็น และป้องกันส่งกลิ่น เพราะตั้งใจจะไปฆ่าชายอีกคนที่มีชู้ให้ตายไปด้วยกัน  โดยวางแผนไว้ว่า เมื่อฆ่าชายชู้สำเร็จ จึงจะบอกลูกสาว และขอมอบตัวรับผิดตามกฎหมาย  แต่ลูกสาวไม่ยอมเค้นหนัก และตามหาแม่จนพบเป็นศพถูกทิ้งลงท่อส้วม  มาถึงวันนี้ยยอมรับผิด ทำไปด้วยความคับแค้นใจไม่มีทางออก รับไม่ได้กับปัญหาภรรยามีชู้ ยอมฆ่าให้ตายดีกว่าทนอยู่

ทางด้าน นางสาวจิราภรณ์ อายุ 28 ปี หลานสาวผู้ตาย ได้พาเดินทางไปตรวจสอบข้อมูล บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้าน ประมาณ 100 เมตร พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่า ผู้ก่อเหตุ ออกมาสร้างบ้าน เนื่องจากลูกชายคนที่ 2 ที่ทำงานเป็นวิศวกรไฟฟ้า ที่ กทม. ส่งเงินมาช่วยสร้าง และมีแผนจะแต่งงานปลายปีนี้ แต่มาเกิดเหตุเศร้าขึ้น  ซึ่งบ้านปูนชั้นเดียวสร้างได้ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ จุดเกิดเหตุคือหลังบ้าน มีแคร่ไม้วาง ใกล้กันประมาณ 3 เมตร เป็นท่อส้วมคอนกรีต ที่กำลังก่อสร้างจะทำส้วม โดยผู้ก่อเหตุได้ นำศพภรรยาทิ้งลงไป และโบกด้วยปูน 

โดยก่อนเกิดเหตุ คืนวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ผู้ตายนอนในบ้านอีกหลัง เพราะส่วนใหญ่จะมีปากเสียงทะเลาะกัน จึงไม่ได้พักด้วยกัน แต่จะแวะไปมาที่บ้านหลังใหม่ เพื่อมาอาบน้ำทำธุระ ซึ่งสามีที่ก่อเหตุนอนพักอยู่ จากนั้นช่วงเช้าตรู่วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ผู้ตายกลับไปอาบน้ำที่บ้านเกิดเหตุ ช่วงหนึ่ง ได้ยินเสียงผู้ตายร้องขอความช่วยเหลือ แต่ทางญาติไม่ได้เอะใจว่า จะทำร้ายกันถึงตาย เพราะทะเลาะกันเป็นประจำจนชิน 

จนลูกสาวผู้ตายกลับมาบ้าน ช่วงเย็นตามหาไม่พบ ถามพ่อไม่บอกอ้างว่าไม่รู้ไปไหน จนกระทั่งแปลกใจ พบท่อส้วมโบกปูนสนิทผิดปกติ จึงชักชวนญาติมาเจาะเปิดออกพบศพผู้ตายนอนในสภาพเปลือยกาย เพราะถูกทุบหัวขณะอาบน้ำหลังบ้าน และนำศพทิ้งลงท่อ 

นอกจากนี้หลังบ้านอีกจุดยังพบร่องรอยการเผาทำลายเสื้อผ้าผู้ตายที่เปื้อนเลือด ไม่คิดว่าเหตุการณ์เศร้าจะเกิดขึ้นกับครอบครัว นี้ ยอมรับว่ารู้ทั้งสองคนมีปัญหาทะเลาะกันมานาน มากสุดทำร้ายกันแค่เจ็บเล็กน้อย หัวแตก ไม่คิดสุดท้ายจะมีจุดจบถึงตาย

 

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook