เสื้อแดงกลัวถูกแบล็คลิสต์ลงชื่อช่วย แม้ว เหวงสวนองคมนตรีเข้าใจถวายฎีกาแค่ไหนแค่ขอพึ่งบารมีในหลวง
นางกรระวี กล่าวว่า กลุ่มประชาชนจากหลายๆที่ หลายจังหวัดที่มารวมตัวกันเพราะได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหลายๆด้านทั้งเรื่องที่ทำกิน การแพร่ระบาดของไข้หวัด ปัญหาเศรษฐกิจ คนตกงาน และยังมีอีกหลายปัญหาเพราะขาดผู้นำที่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาของประเทศและเห็นว่า ในอดีตพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเคยบริหารประเทศจนเป็นที่พึ่งหวังของประชาชนได้ จึงไม่รู้จะไปไหน จึงมาที่สภา เพื่อขอให้ส.ส.ช่วยนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตามรู้ว่า ออกมาคราวนี้ต้องเจ็บตัวอาจโดนแบล็คลิสต์จากรัฐ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ แต่ก็คุยกับลูกแล้ว ลูก ๆก็สนับสนุน
ด้านนายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายฝ่ายทั้งโฆษกกระทรวงมหาดไทย พรรคการเมืองบางพรรค และบางกลุ่มพูดในทำนองว่าไม่บังควรและทำไม่ได้ ทั้งที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนต้องการร้องทุกข์ต่อพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นคนส่วนกับการยื่นถวายฎีกาเพื่อขออภัยโทษ การร้องทุกข์ไม่มีรูปแบบหรือพิธีใด และไม่มีกฎหมายใดห้าม แต่มีความพยายามทำให้เป็นเรื่องการเมือง ซึ่งตนไม่เห็นด้วยที่จะต้องกีดกันไม่ให้ประชาชนสามารถร้องทุกข์ต่อพระเจ้าอยู่หัวได้ ซึ่งก็เท่ากับลดพระราชอำนาจเช่นเดียวกัน แต่การอภัยโทษไม่ใช่ศาลที่ 4 อย่างที่อีกฝ่ายพยายามออกมาพูด เพราะไม่สามารถลบล้างคำพิพากษาได้ คำพิพากษาก็ยังคงอยูต่เมื่อยื่นไปแล้วจะได้ไม่ได้ ก็แล้วแต่พระบรมราชวินิจฉัย และจะไม่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งไม่ใช่การกดดันอะไรเลย
ขณะที่นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การถวายฎีกาเพื่อขออภัยโทษสามารถผ่านได้ 2 ทางคือกระทรวงยุติธรรม และสำนักนายกฯ ซึ่งจะต้องผ่านไปยังสำนักราชเลขาธิการ องคมนตรี และพระเจ้าอยู่หัวฯ ส่วนล่าชื่อถวายฎีกาในครั้งนี้ก็เป็นการร้องทุกข์เพื่อให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนของราษฎร แต่มาผนวกกับการขออภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณด้วย
เหวงสวนองคมนตรีเข้าใจเรื่องถวายฎีกามากน้อยแค่ไหน
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการล่าชื่อประชาชนเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า พวกตนได้มอบหมายให้นายวีระ มุสิกพงษ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เป็นแกนหลักในการดำเนินการเรื่องนี้ เท่าที่ทราบจะมีพิธีเล็กๆน้อยๆที่บริเวณท้องสนามหลวงในวันที่ 31 กรกฎาคม เพื่อแสดงให้สังคมเห็นว่า แกนนำรับรายชื่อเพื่อเตรียมถวายฎีกาแล้ว ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายระบุว่าไม่เหมาะสมนั้น ตนขอยืนยันว่า เมื่อพสกนิกรไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเองแล้ว ก็จำเป็นต้องพึ่งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตามประเพณีปฏิบัติของประเทศไทยก็เคยมีการขอพึ่งพระบารมีในทำนองนี้เหมือนกัน
เมื่อถามว่า องคมนตรีออกมาระบุว่าไม่ควรดึงสถาบันฯเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง นพ.เหวง กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าองคมนตรีเข้าใจในเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน เพราะถือเป็นพระราชอำนาจส่วนพระองค์อย่างแท้จริง ซึ่งพวกตนก็จะไม่ก้าวล่วง เมื่อถามย้ำว่า ขั้นตอนการถวายฎีกาจะยื่นตามระเบียบผ่านกระทรวงยุติธรรมหรือไม่ นพ.เหวง กล่าวว่า กำลังหารือกันอยู่ว่าในทางปฏิบัติจะทำอย่างไร
พท.ปูดมีนักการเมืองขนแท็กซี่ค้านถวายฎีกาช่วยทักษิณ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายวิชาญ มีนชัยนันทน์ ส.ส.กทม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุการณ์กลุ่มคนขับแท็กซี่รวมตัวกันคัดค้านการล่ารายชื่อถวายฏีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า จากการสอบถามไปยังกลุ่มคบรถแท็กซี่ที่มารวมตัว มีการระบุว่า ได้รับคำสั่งให้มารวมกลุ่มกันที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าผ่านมายังกรมขนส่งทางบก โดยยังไม่มีใครทราบสาเหตุ แต่เมื่อมาถึงที่หมายได้มีการเดินแจกป้ายสติ๊กเกอร์ระบุข้อความในทำนองคัดค้านการล่ารายชื่อถวายฎีกา ซึ่งตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะมีการสั่งการให้กระทำ ไม่ได้เป็นการกระทำโดยความสมัครใจ ซึ่งจะทำให้เกิดการยุยงส่งเสริมให้เกิดรู้สึกร้าวฉานกับกลุ่มคนที่ล่ารายชื่อและกลุ่มคนที่คัดค้านการกระทำทั้งกล่าว ส่วนจะมีพรรคการเมืองใดเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น ตนคิดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะมีเสียงจากกลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ว่าไม่อยากทำสิ่งเหล่านี้
เมื่อถามว่า ตามขั้นตอนการเข้าชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกาไม่น่าจะกระทำได้ นายวิชาญ กล่าวว่าเรื่องนี้สิทธิ์เป็นของประชาชน ส่วนการถวายไปแล้วนั้นเป็นเรื่องของกระบวนการ และไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะกระทำไม่ได้ แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการรัฐประหาร ซึ่งมีผลถึงการบริหารในภาพรวมของประเทศ อีกทั้งการถวายฎีกานั้นเป็นสิ่งที่ประชาชนสามารถกระทำได้อยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าการกระทำนี้ผิดหรือไม่ เป็นเรื่องของพระราชอำนาจการวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายวิชาญให้สัมภาษณ์ได้มีการโชว์แผ่นสติ๊กเกอร์พื้นสีขาว ตัวอักษรสีน้ำเงิน โดยระบุข้อความว่า "อย่ากดดันพระเจ้าอยู่หัว และ "หยุดรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ซึ่งนายวิชาญอ้างว่า ได้รับจากกลุ่มแท็กซี่ที่มารวมชุมนุมบริเวณ หน้าลานพระบรมรูปทรงม้า