ถึงเวลารับบทคนจริง

บางครั้งบ้านเราต้องการคนกล้าที่จะพูดความจริง หรือกล้าแสดงออก เพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ เหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ชอบทำตัว เป็นพวกอีแอบ เวลาให้ความเห็นอะไรซักเรื่อง ซึ่งพาดพิงหรือเกี่ยวพันกับ นายใหญ่ กลับออกอาการกระมิดกระเมี้ยน ไม่กล้าแสดงจุดยืนของตัวเอง คนประเภทนี้บ้านเรามีเยอะครับ

ยิ่งมีข่าวว่า ซาร์ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีบางคนชอบยกย่อง แต่ผมชอบเรียกว่า ซาตาน มากกว่า กำลังจะออกมาวิจารณ์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแยกกันเดินรวมกันตี จึงไม่รู้สึกแปลกใจอะไร แต่เอาละครับ ถ้าหากออกมาเมื่อไหร่ ผมจะ ช่วยขุดหรือลากไส้เน่า ๆ ที่แอบซ่อนไว้ไม่ให้ใครเห็น นำมาประจานเพื่อให้คนทั่วไปได้รับรู้กันซะทีว่า ใครสร้างภาพหรือใครทำงานรับใช้ใคร

ถ้าพูดถึงความชัดเจนหรือการประกาศจุดยืนของตัวเอง ใครจะคิดว่ามีเจตนาแอบแฝงหรือหวังผลอะไรบางอย่าง แต่ผมขอชื่นชม พรรคภูมิใจไทย วันนี้ไม่ต้องรอใครสั่ง หรือรอให้ฝ่ายบริหารขอความร่วมมือเดินหน้าประกาศท่าทีชัดเจนว่า คัดค้านการรวบรวมรายชื่อของประชาชนถวายฎีกา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร

ผมว่าใครก็ตามที่เข้ามาทำงานการเมืองหรืออาสาเข้ามาทำงานในฐานะตัวแทนของปวงชนชาวไทย ต้องกล้าในการแสดงท่าทีของัวเอง เพราะการเคลื่อนไหวของ นปช. และคนเสื้อแดงเพื่อหวังช่วยเหลือผู้มีพระคุณ ทั้งองคมนตรี นักกฎหมาย ผู้รู้ที่ยึดความถูกต้องของบ้านเมือง ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นตรงกันว่า เป็น ความพยายามดึงสถาบันเบื้องสูง ให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีความของอดีตนายกฯทักษิณ แต่คนพวกนี้กลับไม่ฟัง

ที่ต้องตำหนิกันตรง ๆ ก็หนีไม่พ้นความอ่อนหัดและไร้เดียงสาของผู้มีอำนาจในรัฐบาลภายใต้การนำของ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ละครับ คุมกลไกทั้งอำนาจรัฐ มีสื่ออยู่ในความดูแล แต่ดูเหมือนยังให้ความรู้กับชาวบ้านไม่เต็มที่ ปล่อยให้ ขบวนการดึงฟ้าต่ำ กล้าทำในสิ่งที่คนรู้ผิดชอบชั่วดีไม่กล้าทำ

ยิ่งขบวนการล่ารายชื่อทำถึงขั้น เดินสายไปตามหมู่บ้านหรือห้างสรรพสินค้า ยื่นแบบฟอร์มให้ชาวบ้านช่วยลงชื่อ โดยไม่บอกรายละเอียดให้ชัดเจน ผมก็อยากจะรอดูซิว่าถ้าหาก นปช. แถลงรายชื่อของประชาชนที่ร่วมถวายฎีกา ซึ่งคุยนักคุยหนาว่าเกิน 1 ล้านชื่อ เพื่อจะช่วยเหลือ นายใหญ่ ถ้าหากมีใครบางคนโต้แย้งหรือออกมาโวยว่า ไม่รู้เรื่อง บรรดา แกนนำคนเสื้อแดงต้องรับผิดชอบ ในแง่กฎหมายทันที ยิ่งเรื่องนี้เกี่ยวพันกับสถาบันเบื้องสูงอยู่ด้วย

และคงเป็นเพราะความหน่อมแน้มของรัฐบาลที่กำลังปกครองบ้านปกครองเมืองอยู่ในขณะนี้ ทำให้ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีซึ่งตอนรับราชการทหารได้รับฉายาว่า บิ๊กเสือ ยังต้องออกมาให้ความเห็นว่า การที่กลุ่มคนเสื้อแดงเดินหน้าล่ารายชื่อประชาชน เพื่อยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว ผู้ที่กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดต้องรับโทษไปตามคำพิพากษาก่อน จะข้ามขั้นตอนยื่นถวายฎีกาก่อนรับโทษไม่ได้ อีกทั้งยังถือเป็น การกดดันพระบรมราชวินิจฉัย เป็นการไม่บังควร

เป็นอย่างไรครับ สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ได้ใจความ ไม่ต้องคิดหรือตีความกันให้วุ่นวาย แต่ที่องคมนตรีท่านนี้ทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคที่ว่า ได้รับทราบว่ามีอดีตนายกฯคนหนึ่ง นำเงินไปฟอกบนเกาะเคย์แมน กว่า 18,000 ล้านบาท เพื่อออกมาใช้เคลื่อนไหวในช่วงนี้ด้วย

หลายคนคงอยากตั้งคำถามว่า พฤติกรรมอย่างนี้มันเป็นการกระทำของใคร หรือเชื่อว่าด้วยเงินก้อนนี้ สามารถทำให้คนไทยบางคน ถึงกับกล้าขายจิต ขายวิญญาณ โดยมุ่งหวังล้มสถาบันหลักของชาติ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ.