เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 เม.ย.63 ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ.ต.อ.พงษ์จักร ปรีชาการุณพงษ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายดรัสวิน คำแบบ อายุ 32 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลาง เป็นจีวร ยามพระ กระเป๋าโน๊ตบุ๊กสีดำ หน้ากากอนามัยและแว่นตา ที่ใช้ก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ซอยลาดพร้าว 91 เขตวังทองหลาง กรุงเทพ จึงควบคุมตัวนายดรัสวิน ซึ่งไม่ได้เป็นพระจริง นำตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.ปากเกร็ด
โดยนายดรัสวิน คำแบบ อายุ 32 ปี พระปลอมรายนี้ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยบวชเป็นพระมาตั้งแต่ปี 2554 และสึกออกมาเมื่อปี 2559 ปัจจุบันตกงานและหางานทำไม่ได้ จึงได้พักอาศัยอยู่กับญาติที่บ้านพักในกรุงเทพ ในวันเกิดเหตุตนไม่ได้ตั้งใจจะโกงค่าโดยสารแท็กซี่ หลังจากที่เรียกใช้บริการไปหลายวัด เพราะในตอนนั้นตนยังพอมีเงินที่จะจ่ายค่าโดยสารให้กับคนขับแท็กซี่ แต่หลังจากเข้าไปหาพระที่วัดผาสุกมณีจักรแล้ว ต้องนั่งรอพระอาจารย์ที่รู้จักกันอยู่นานมาก พอออกมาที่รถก็ไม่เจอรถแท็กซี่แล้ว ตนจึงเรียกรถแท็กซี่คันอื่นกลับบ้านแทน ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะโกงค่าโดยสารแท็กซี่แต่เป็นเพราะสื่อสารผิดพลาดกัน ขอยอมรับผิดและไม่คิดจะแก้ตัวอะไร และหลังตกเป็นข่าวตนก็ตั้งใจจะเข้ามอบตัวอยู่แล้วแต่มาถูกจับเสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ต้องนั่งแท็กซี่ไปหลายวัดเพราะตนเคยบวชและตั้งใจจะไปหาพระที่เคยบวชเรียนมาด้วยกัน เพื่อขอเงินไปใช้ โดยที่ผ่านมาก็ขอได้บ้างที่ละ 200-300 บาท ส่วนสาเหตุที่ต้องนำจีวรมาใส่แต่งกายนั้นเป็นเพราะตนเคยบวชมา เวลาเดินทางไปหาพระรูปอื่นเพื่อจะขอเงิน จะได้เกิดความเห็นใจกัน
นายดรัสวิน กล่าวอีกว่า ตอนนี้ไม่มีเงินคืนค่าโดยสารให้แท็กซี่แล้ว แต่ทางญาติๆจะนำมาชดใช้คืนให้แทน เรื่องนี้ตนยอมรับว่าทำผิดจริงก็ยอมรับโทษไป หลังจบคดีนี้แล้วตนจะะกลับไปอยู่ต่างจังหวัดและไม่หันมาสวมใส่จีวรไปขอเงินพระตามวัดอีก และต้องขอโทษคนจีบแท็กซี่ด้วยที่ตนทำให้เดือดร้อน
หลังสอบปากคำนายดรัสวินผู้ต้องหารายนี้แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนส่งห้องศาลเพื่อดำเนินคดีต่อไป โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา แต่งกายเลียนแบบเป็นพระภิกษุสงฆ์โดยไม่ชอบ และความผิด พรบ.จราจร ในข้อหา คนโดยสารต้องชำระค่าโดยสารที่ปรากฏตามมาตรแท็กซี่ มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท โดยระหว่างสอบปากคำ นายเกียรติศักดิ์ สุบิน อายุ 39 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ ซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย ได้เดินทางมาชี้ตัวยืนยันว่านายดรัสวิน คือพระปลอมที่เชิดค่าโดยสารรายนี้ด้วย และไม่ติดใจเอาความใดๆ เนื่องจากนายดรัสวินผู้ต้องหาสำนึกผิด ขอโทษแล้ว พร้อมกับให้ทางญาตินำค่าโดยสารแท็กซี่มาชดใช้คืน ก็ขอว่าอย่าใช้ผ้าเหลืองผ้าจีวรของพระสงฆ์ไปหากินแบบนี้ ไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น มันไม่ดี ไม่สมควรทำ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 63 เมื่อเวลา 15.30 น. ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายเกียรติศักดิ์ สุบิน อายุ 39 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ ซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พงษ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าเมื่อวันที่ 19 เม.ย.63 เวลา 12.10 น.ว่าถูกผู้โดยสารแต่งกายเหมือนพระสงฆ์ ว่าจ้างเรียกรถจากวัดสร้อยทอง ถนนพระราม7 ให้ไปส่งที่วัดป่าคลอง 15 ธัญบุรี จากนั้นก็นั่งโดยสารต่อไปที่วัดป่า คลอง11 และเดินทางไปที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งที่ย่านคลอง2 จากนั้นก็นั่งโดยสารต่อไปอีกที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งหลังโรงพยาบาลบีแคร์ ต่อด้วยวัดหลวงปู่สรวง และวนกลับมาที่วัดสลักเหนือ ย่าน อ.ปากเกร็ด ก่อนจะให้ขับรถมาต่อที่วัดผาสุกมณีจักร ในเมืองทองธานี และจอดรอนานกว่า 2 ชม.ไม่กลับออกมา ค่าโดยสารมิตเตอร์เป็นเงิน 1,809 บาท จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความในวันที่ 20 เม.ย.63 ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี