จี้ค้าภายในสอบโมเดิร์นเทรดโขกกำไร10% พ่อค้าตอกหน้ารัฐขึ้นข้าวถุงส.ค.นี้

จี้ค้าภายในสอบโมเดิร์นเทรดโขกกำไร10% พ่อค้าตอกหน้ารัฐขึ้นข้าวถุงส.ค.นี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ผู้จำหน่ายข้าวถุงตรา เกษตร กล่าวถึงกรณีที่นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน จะเชิญสมาคมฯ ชี้แจงต้นทุนและราคาจำหน่ายข้าวสารหอมมะลิบรรจุถุง ว่า ปัจจุบันผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงมีหลายราย แต่ละรายมีขนาดของกิจการและเงินทุนหมุนเวียนไม่เท่าเทียมกัน โดยรายเล็กมีทุนน้อยไม่สามารถซื้อข้าวมาสต๊อกทีละจำนวนมาก หากสต๊อกเก่าหมดจำเป็นต้องเข้าไปซื้อข้าวใหม่ในตลาด ที่ขณะนี้ราคาได้ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้บางรายมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาตามต้นทุน ผู้ประกอบการทุกรายพร้อมที่จะชี้แจงต้นทุนต่อกรมการค้าภายในว่าไม่ได้เอาเปรียบผู้บริโภค

ข้าวสารหอมมะลิเมื่อ 2 เดือนก่อนก.ก.ละ 27 บาท วันนี้ปรับขึ้นเป็น 30-31 บาท ปรับขึ้นก.ก.ละ 3-4 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิปรับราคาปรับขึ้นจากตันละ 1,4000 บาท เป็น 16,000-17,000 บาท ทำให้ต้นทุนเราเพิ่ม ซึ่งขณะนี้ผมไม่มีสต๊อกเก่าแล้ว และได้ซื้อข้าวสต๊อกใหม่เข้ามาทำการบรรจุถุง ทำให้ข้าวสารหอมมะลิตราเกษตรขนาดบรรจุถุง 5 ก.ก. จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นอีกถุงละ 10 บาท ในเดือนส.ค.นี้ คือปรับจาก 160-170 บาท เป็น 170-180 บาท ซึ่งเราพร้อมที่จะชี้แจงที่มาที่ไปของต้นทุน นายสมฤกษ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในการหารือร่วมกับกรมการค้าภายในวันที่ 30 ก.ค.นี้ สมาคมฯจะร้องเรียนให้กรมเข้าไปตรวจสอบการตั้งราคาจำหน่ายปลีกข้าวสารบรรจุถุงของโมเดิร์นเทรดบางรายที่ไม่เป็นธรรมด้วย เนื่องจากขณะนี้โมเดิร์นเทรดบางรายได้ทำหนังสือแจ้งมายังผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงที่ส่งข้าวไปจำหน่ายภายในห้างโมเดิรน์เทรดว่าขอปรับขึ้นอัตราส่วนกำไรจากปกติ 4-6% จากยอดขายเป็น 10% โดยอ้างว่ากำไรหดตัวลงในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี

หากกรมการค้าภายในจะเข้าไปตรวจสอบต้นทุน และราคาจำหน่ายข้าวสารที่เป็นธรรม ควรเข้าไปตรวจทั้งระบบตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้บรรจุ ผู้ค้าส่ง ค้าปลีก รวมทั้งโมเดิร์นเทรด โดยเฉพาะการกำหนดราคาขายปลีกข้าวสาร แบบอิสระเสรีของโมเดิร์นเทรดในปัจจุบัน ที่ปรับขึ้นลงเสรี ต้องการกำไรมากก็ปรับขึ้นมาก โดยทางการไม่เคยตรวจสอบเลย และการขอเพิ่มอัตรากำไรเป็น 10% นั้นผมมองว่ามันสูงเกินไปไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และตัวกำไรของห้างที่แฝงอยู่ในราคาจำหน่ายปลีกข้าวสาร จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ข้าวสารบรรจุถุงมีราคาแพง นอกเหนือไปจากการปรับขึ้นราคาขายส่งจากซัพพลาย นาย สมฤกษ์กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค. คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เห็นชอบให้มีการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 51/52 ปริมาณรวม 763,920 ตัน จำแนกเป็น ข้าวหอมมะลิ จำนวน 300,000 ตัน และข้าวขาว 5% จำนวน 463,920 ตัน โดยกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดเปิดประมูลผ่านกลไกตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET ในวันที่ 6 ส.ค. ณ ห้องประชุม 30410 ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ เวลา 09.00 -12.00 น. นี้ พร้อมเปิดคลังให้ผู้สนใจเข้าดูสภาพข้าวในวันที่ 29-31 ก.ค.52 โดยครั้งนี้จะเป็นการเปิดประมูลข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 จำนวน 300,000 ตัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook