''ฉันจะกลับมา'' ลูกอ้อนของพ.ต.ท.ทักษิณ
ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แต่วันนี้ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าความขัดแย้งที่มี พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นเงื่อนไข ยังวนเวียนอยู่กับสังคมไทยต่อไป
เพลง ฉันจะกลับมา ที่ พ.ต.ท. ทักษิณ คร่ำครวญจากเมืองนอกเมืองนาให้ กลุ่มคนรักทักษิณ ได้น้ำหูน้ำตาไหลนั้น หากลงลึกเข้าไปในเนื้อหาของเพลงบางช่วงที่ระบุว่า ฉันจะกลับมาใหม่ให้ชาวไทยจงได้โปรดรอ ต้องมีสักวันฉันจะกลับมาถึง เธอคือแรงดึง เคยซาบซึ้ง น้ำตาคลอ ฉันจะอดทน กับคำคนที่บ่นด่าทอ เชิญเหยียบย่ำให้พอ จะรอวันฟ้าเปลี่ยนสี กลายเป็นคนต้องพเนจร โยกย้ายที่นอน ดังผู้ร้ายหลบหนี
อ้อน แฟน ๆ ชนิดนักร้องมือชีพยังต้องอาย
การจัดงานแซยิด 60 ปีครั้งนี้ ภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ แตกต่างจากการ โฟนอิน มาที่เวทีคนเสื้อแดงเมื่อครั้งชุมนุมล้อมทำเนียบรัฐบาล ก่อนเกิดเหตุการณ์ เผาเมือง เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ครั้งนั้นท่าที พ.ต.ท.ทักษิณ แข็งกร้าว ซึ่งผิดกับครั้งนี้ ที่ นุ่มนวล ลง
สิ่งที่ต้องตามดูคือ ฉันจะกลับมา นั้นจะกลับมาอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐ มนตรี ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่า จุดยืนที่ผมมีอยู่ คือ เป็นนักการเมืองก็ต้องอยู่ภายใต้กติกาของบ้านเมือง จึงอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาแล้วเข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ ตามกติกา
ขณะที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณให้ความเห็นเรื่องการยื่นถวายฎีกาไว้ว่า
ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นความคิดของประชาชน เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่คิดจะทำอะไร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับท่านไม่ใช่พวกผมเป็นผู้บงการ ที่ประชาชนดำเนินการ มันไม่ใช่ว่าต้องทำตามกฎหมายอาญา แต่ประชาชนทำตามความรู้สึกที่มีความรู้สึกเดือดร้อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความเป็นธรรม และทำโดยที่ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย
หลายฝ่ายมองว่า การถวายฎีกาของคนเสื้อแดง เพื่อเป็น ของขวัญ ในปีที่ 61 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้น่าจะเป็นเป้าหมายหลักของการจัดงาน แซยิด ของ พ.ต.ท. ทักษิณ
กลับมาตัวเป็น ๆ เมื่อไร นั่นแหละถึงจะเรียกว่า บิ๊กเซอร์ไพร้ส์ ของจริง.