คว่ำบาตร-หงายบาตร หมายถึงอะไรกันแน่?
ไม่ใช่เพียงแต่จะมีความข้องเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งทางด้านการเบางคนยังตั้งข้อสังเกตไปถึงขนาดว่า การทำพิธี คว่ำบาตร-หงายบาตร อาจเป็นการทำพิธีกรรมแก้กันระหว่างพระสงฆ์สายธรรมยุตกับมหานิกาย นั่นคือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นพระสงฆ์สายธรรมยุต ซึ่งเป็นที่เคารพของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะที่วัดสระเกศเป็นวัดฝ่ายมหานิกาย ซึ่งคนในตระกูลชินวัตรให้ความเคารพมาอย่างยาวนาน ดังนั้นการทำพิธีหงายบาตรจึงยังมีเรื่องของความแตกต่างระหว่างธรรมยุตกับมหานิกายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แม้จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า คำว่า คว่ำบาตร-หงายบาตร นั้นมีความหมายในเชิงพิธีกรรมหรือไสยศาสตร์จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคำดังกล่าวกลับมีความหมายในเชิงพุทธศาสนา ดังที่พระธรรมกิตติวงศ์ เคยระบุไว้ในหนังสือ ภาษาธรรม ว่า
คว่ำบาตร หมายถึง การที่พระสงฆ์พร้อมใจกันทำสังฆกรรมสวดประกาศลงโทษคฤหัสถ์ผู้คิดร้ายต่อพระพุทธศาสนาหรือพระสงฆ์เพื่อให้รู้สึกตัวและเข็ดหลาบ วิธีลงโทษคือไม่คบหา ไม่พูดคุยด้วย และไม่รับอาหารบิณฑบาต โดยอาการเหมือนคว่ำบาตรเสีย ไม่ยอมเปิดบาตรรับอาหารจากผู้นั้น วิธีการเช่นนี้สม่อนถือว่าเป็นการลงโทษที่รุนแรงสำหรับผู้ที่เป็นพุทธมามกะ ทำให้ผู้นั้นได้รับความเดือดร้อนมากเพราะไม่ได้ทำบุญใส่บาตรพระ เป็นการขาดโอกาสที่จะได้สร้างบุญบารมี
โดยการ คว่ำบาตร ครั้งแรกในทางพุทธศาสนา เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ เจ้าวัฑฒลิจฉวี กล่าวให้ร้าย พระทัพพมัลลบุตร ว่าเป็นชู้กับภรรยาของตน เมื่อคณะสงฆ์สอบสวนแล้วพบว่าเหตุดังกล่าวไม่เป็นความจริง จึงประกาศคว่ำบาตรเจ้าวัฑฒลิจฉวี
ส่วน หงายบาตร หมายถึง การที่พระสงฆ์พร้อมใจกันทำสังฆกรรมประกาศยกโทษให้แก่ผู้ที่ถูกคว่ำบาตร หลังจากผู้นั้นรู้สำนึกและยอมขอโทษพระสงฆ์ พร้อมทั้งปฏิญาณว่าจะไม่ประพฤติเช่นนั้นอีก
อย่างไรก็ตาม จนถึงบัดนี้ ดูเหมือนยังคงไม่มีใครแน่ใจว่า การ หงายบาตร ที่อาจเกิดขึ้นในวันจัดงานฉลองแซยิดให้พ.ต.ท.ทักษิณนั้น จะมีความหมายในแง่มุมใดกันแน่