อย.ขอความร่วมมือ ผู้ผลิต-ผู้นำเข้า พ่อค้าปลีก-ส่ง ไม่ให้ขึ้นราคาหน้ากากอนามัยเกินจริง

อย.ขอความร่วมมือ ผู้ผลิต-ผู้นำเข้า พ่อค้าปลีก-ส่ง ไม่ให้ขึ้นราคาหน้ากากอนามัยเกินจริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
อย.ขอความร่วมมือผู้ผลิตและผู้นำเข้าหน้ากากอนามัย รวมไปถึงพ่อค้าทั้งปลีกส่ง ไม่ให้ฉวยโอกาส ขึ้นราคาหน้ากากอนามัยเกินจริงซ้ำเติมผู้บริโภค ไม่ให้กักตุนสินค้า และห้ามมีข้อจำกัดในการจำหน่ายและการส่งสินค้าไปยังประชาชน พร้อมแนะนำวิธีการใช้หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีเพื่อประสิทธิผลในการป้องกันเชื้อโรค

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้หลายคนหาซื้อหน้ากากอนามัยมาเพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ส่งผลให้หน้ากากอนามัยมีราคาสูงขึ้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ผลิต ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทยมีบริษัทผลิตหน้ากากอนามัยจำนวน 7 บริษัท โดยทำหนังสือกำชับไปยังผู้ผลิตให้มีการผลิตอย่างเต็มกำลัง ไม่ให้ขึ้นราคา ไม่ให้กักตุน รวมทั้งให้คงสินค้าให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศไปแล้ว และในขณะนี้ยังได้ขอความร่วมมือเพิ่มเติมไปยังผู้นำเข้าหน้ากากอนามัย ร้านขายยาที่มีการจำหน่าย รวมไปถึงพ่อค้าปลีก-ส่ง ไม่ให้ขึ้นราคาหน้ากากอนามัยเกินจริง ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมประชาชน

เลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า การสวมหน้ากากอนามัย นอกจากจะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อแล้ว ยังถือเป็นเกราะป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ดีอีกด้วย โดยมีวิธีการใช้ ดังนี้ ล้างมือให้สะอาดก่อนสวมใส่ สวมให้คลุมทั้งปากและจมูก หน้ากากอนามัยแบบกระดาษ สวมโดยใช้ด้านสีขาวเข้าข้างใน ส่วนด้านที่เป็นสีไว้ข้างนอกและให้ด้านขอบที่มีลวดอยู่ด้านบนแนบกับสันจมูก ซึ่งหน้ากากแบบนี้นิยมใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง แต่หากใช้งานเพียง 2-3 ช.ม. แบบไม่สมบุกสมบัน เช่น ใช้เฉพาะในรถโดยสาร หรือในที่ทำงาน ก็นำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่ไม่ควรใช้เกิน 2-3 วัน หน้ากากอนามัยแบบผ้า สามารถป้องกันเชื้อโรคได้บ้าง เมื่อใช้แล้วนำมาซักด้วยผงซักฟอกตากให้แห้งและนำกลับมาใช้ซ้ำได้ หน้ากากชนิดนี้สามารถทำเองด้วยวิธีง่ายๆ และประหยัดอีกด้วย การสวมและถอดหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ควรใช้มือจับตรงขอบหน้ากาก และห้ามจับตรงกลางหน้ากากที่สัมผัสปากและจมูก นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มการเข้าถึงหน้ากากอนามัยของประชาชน อย. จึงส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ให้หันมาผลิตหน้ากากอนามัยให้ได้มาตรฐานตามเกณฑ์เครื่องมือแพทย์ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ มีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ทั้งนี้ เพื่อใช้ป้องกันตนเอง และป้องกันคนในชุมชนให้ห่างไกลจากไข้หวัดใหญ่ 2009 แถมยังช่วยสร้างรายได้จากการจำหน่ายได้ดีอีกด้วย

มาร่วมกันป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อโรคอย่างถูกวิธี มีจิตสำนึกที่ดีทั้งผู้ใช้และผู้จำหน่าย รักษาสุขภาพให้แข็งแรง กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ เมื่อจับต้องของสาธารณะเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด และสร้างสุขนิสัยใหม่ ไม่นำมือสัมผัสหน้าตา ปากหรือจมูก หากยังไม่ล้างหรือทำความสะอาดมือ เลขาธิการฯกล่าวในที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook