ย้อนประวัติ จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.วัย 60 ผู้นำหน้าลูกทีม ปราบคนร้ายกราดยิงโคราช

ย้อนประวัติ จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.วัย 60 ผู้นำหน้าลูกทีม ปราบคนร้ายกราดยิงโคราช

ย้อนประวัติ จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.วัย 60 ผู้นำหน้าลูกทีม ปราบคนร้ายกราดยิงโคราช
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากเหตุกราดยิงโคราช ที่ลากยาวต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวานจนถึงช่วงสายๆ ของวันนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปิดฉากปฏิบัติการที่กินเวลายาวนานกว่า 17 ชั่วโมงด้วยการวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดหนึ่งในผู้ที่ได้รับคำชื่นชมจากผู้คนในโลกออนไลน์ก็คือ "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ทำงานได้ใจประชาชนมาตั้งแต่เหตุการณ์ช่วยเด็กๆ ทีมหมูป่าติดอยู่ภายในถ้ำหลวง คลี่คลายคดี ผอ.ชิงทองที่ลพบุรี มาจนถึงเหตุกราดยิงโคราช ที่มีรายงานว่าเดินไปในเข้าห้างเทอร์มินอล 21 ตั้งแต่สามทุ่มจนปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นในช่วงสายๆ ของวันต่อมา

อ่านเพิ่มเติม

Sanook News ขอถือโอกาสนี้นำประวัติชีวิตของผู้ชายที่ชื่อ จักรทิพย์ ชัยจินดา มาฝากกันอีกสักครั้ง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 36 (นรต.36) ที่จัดว่าเป็นดาวรุ่งและได้รับการจับตามากที่สุดของรุ่นก็ว่าได้ เพราะได้รับการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งชนิดก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วอยู่หลายครั้ง

แต่ในวงการสีกากีก็ยอมรับกันว่า บิ๊กแป๊ะ มีความสามารถโดดเด่นในด้านงานสืบสวน ถือเป็นนักสืบระดับแนวหน้าของเมืองไทยที่ยังทำหน้าที่อยู่ในเวลานี้เลยทีเดียว

นับจนถึงนาทีนี้ ผบ.แป๊ะ มีอายุกว่า 60 ปีแล้ว เพราะเกิดเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2502 แต่อย่าเพิ่งรีบแปลกใจกันไปว่าทำไมอายุครบ 60 ปีแล้วยังไม่เกษียณอายุราชการอีก เพราะคำตอบก็คือในระบบราชการไทยนั้นหากใครที่เกิดตั้งแต่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป จะได้รับการแถมอายุราชการให้แบบอัตโนมัติอีก 1 ปี อันสืบเนื่องมาจากการนับวงรอบปีในวงการาชการบ้านเรานั้นเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค. ไปจบที่ 30 ก.ย.ของปีถัดไป ดังนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ เลยมีคิวเกษียณอายุราชการสิ้นเดือน ก.ย.ปีนี้นั่นเอง

มีอีกเรื่องที่ตำรวจน้อยคนนักจะทำได้แบบ บิ๊กแป๊ะ ก็คือ การสร้างสถิติอยู่ในตำแหน่งผู้นำสำนักปทุมวันที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะการก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 11 ต่อจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ตั้งแต่เมื่อ 1 ต.ค. 2558 ทำให้มีเวลาอยู่บนเก้าอี้ถึง 5 ปีเต็มๆ

อย่างไรก็ตาม คำพูดที่ว่าการเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์ให้ได้นั้นยากกว่า ก็ดูเหมือนว่าจะใช้ได้กับตำแหน่งผู้นำวงการสีกากีเช่นเดียวกัน เนื่องจากตลอดเวลาของการทำหน้าที่ ผบ.ตร. มีกระแสข่าว ข่าวลือ ข่าวปล่อย หรือแม้แต่ข่าวเสี้ยมว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะไม่ได้นั่งครองเก้าอี้เบอร์หนึ่งของกรมปทุมวันครบ 5 ปี โดยเหตุผลที่กระแสข่าวเหล่านั้นมักใช้เป็นเหตุผลคือ บิ๊กแป๊ะ จะลาออกไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

หากทว่าจนถึงเวลานี้ที่เป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 แล้ว ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ยังคงเป็นชื่อของ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา

จะว่าไปแล้ว การที่ ผบ.แป๊ะ สามารถครองตำแหน่งผู้นำสูงสุดขององค์กรผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้ยาวนานขนาดนี้ ชนิดที่ถ้าอยู่จนครบเกษียณอายุก็จะนานถึง 5 ปี หรือครึ่งทศวรรษ แบบที่สื่อให้ฉายาประจำปี 2562 ไว้เมื่อสิ้นปีก่อนว่า "พิทักษ์ 1 กึ่งทศวรรษ" คงไม่ใช่แค่เรื่องผลงานปราบปรามคลี่คลายคดี หรือผลงานการบริหารภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับผู้นำกองทัพอีกด้วย

เพราะตัวบิ๊กแป๊ะเองคงจะไม่ปฏิเสธว่าเขาได้ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำสีกากีได้ก็ในยุคที่ผู้นำกองทัพก้าวเข้ามามีอำนาจบริหารประเทศในนาม คสช. ซึ่งคงไม่ต้องบอกอีกเหมือนกันว่าสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งกลุ่ม 3 ป. นั้นใกล้ชิดกันแค่ไหน แล้วยิ่งเมื่อกองทัพบกมีผู้นำที่ชื่อ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผงาดขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. เมื่อ 1 ต.ค. 2561 ก็ยิ่งทำให้เก้าอี้ ผบ.ตร. แข็งแกร่งแบบเสริมใยเหล็ก 3 ชั้น เพราะทั้ง "บิ๊กแป๊ะ" และ "บิ๊กแดง" เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 20 (ตท.20) รุ่นเดียวกัน

ในเมื่อภาพที่เราได้เห็นจากการลงพื้นที่แล้วเข้าไปเป็นผู้นำปฏิบัติภารกิจปิดคดีคนร้ายกราดยิงโคราชเมื่อคืนนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ยังมีภาพอื่นๆ ให้ได้เห็นมาอยู่เรื่อยๆ ของการทำหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นบรรทัดต่อจากนี้จะนำประวัติอย่างย่อๆ ของสุภาพบุรุษสีกากีที่ชื่อ จักรทิพย์ ชัยจินดา มาให้ได้ทราบกันอีกครั้ง แล้วจะได้รู้ว่ากว่าจะได้รับคำชื่นชมจนได้รับการยอมรับมากมายอย่างวันนี้นั้น ไม่ใช่ได้มาเพราะคอนเน็กชั่น เพราะความเก่ง เพราะความเป็นคนดี เพราะความดวงเฮง หากแต่คงไม่สามารถขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ว่ามาได้เลยแม้แต่อย่างเดียว

เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2502 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรชายของนายประณีต ชัยจินดา นักธุรกิจคนดังแห่งอ่างศิลา และนางสมศรี ชัยจินดา สมรสกับ ดร.บุษบา ชัยจินดา มีบุตรชาย 2 คน

การศึกษาและดูงาน

- มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
- โรงเรียนนายร้อยตำรวจ นรต.รุ่นที่ 36
- ปริญญาโท มหาวิทยาลัยเคนตักกี้สเตท สหรัฐอเมริกา
- FBI National Academy, Quantico, VA USA
- หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐ เอกชนและการเมือง วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
- หลักสูตรโรงเรียนนักปกครองระดับสูง รุ่น 41 กรมการปกครอง
- หลักสูตรการกำกับดูแลกิจการสำหรับกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชน รุ่นที่ 2 สถาบันพัฒนากรรมการและผู้บริหารระดับสูงภาครัฐ
- Post Blast Investigation Cours (ATF) (iIEA)

เส้นทางรับราชการ

  • ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ต.ค. 58 - ปัจจุบัน

  • ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) 54 - 55

  • ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ต.ค. 53 - 54

  • ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานแห่งชาติ (ผบก.ตม.ทอช.)

  • รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.)

  • รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ (รอง ผบก.รน.)

  • รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม (รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook