แม่ "น้องต่าย" หญิงสาวกลายเป็นศพอยู่ในท่อ มั่นใจลูกถูกฆ่า สงสัยฝีมือแฟนใหม่

แม่ "น้องต่าย" หญิงสาวกลายเป็นศพอยู่ในท่อ มั่นใจลูกถูกฆ่า สงสัยฝีมือแฟนใหม่

แม่ "น้องต่าย" หญิงสาวกลายเป็นศพอยู่ในท่อ มั่นใจลูกถูกฆ่า สงสัยฝีมือแฟนใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(14 พ.ย. 62) ความคืบหน้า จากกรณีที่ น.ส.เสาวลักษณ์ หรือ ต่าย อายุ 23 ปี ได้หายออกจากบ้านไป เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2562 เนื่องจากหมอนัดให้ไปรับยาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ แต่ก่อนที่จะไปโรงพยาบาล เวลาประมาณ 9 โมงเช้า น.ส.เสาวลักษณ์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิ๊ก สีขาว ทะเบียน ขฉข 441 เพชรบูรณ์ เพื่อที่จะไปเอาเงินกับแฟนหนุ่มที่ ต.บ้านโคก ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 6 กิโลเมตร กระทั่งช่วงเที่ยงแฟนหนุ่มได้โทรมาหาแม่ของ น.ส.เสาวลักษณ์ ว่า น.ส.เสาวลักษณ์ ยังไม่มาเอาเงิน จนกระทั่งช่วงเย็นก็ยังไม่มีใครพบเห็น

ต่อมารุ่งเช้าวันที่ 23 ต.ค. นางพยัพ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.เสาวลักษณ์ จึงไปแจ้งความคนหายที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งวันที่ 10 พ.ย. ได้มีคนพบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.เสาวลักษณ์ ที่ขี่ไปหาแฟน จอดทิ้งอยู่ใกล้บ้านร้างในสวนมะขาม หมู่ 6 ต.บ้านโคก อ.เมืองเพชรบูรณ์ ห่างจากบ้านประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นคนละเส้นทางที่จะไปบ้านแฟนหนุ่ม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถจักรยานยนต์ มาเก็บไว้ที่ สภ.บ้านโคก เพื่อตรวจสอบ 

ต่อมาเช้าวันที่ 13 พ.ย.2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโคก พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 50 คนได้ช่วยกันตรวจสอบและค้นหาในส่วนมะขามและบ้านร้าง ปรากฎว่าพบร่าง น.ส.เสาวลักษณ์ เป็นศพนอนเสียชีวิตอยู่ในท่อซีเมนต์ ลักษณะศพเน่าเปื่อยจนชิ้นเนื้อหลุดเห็นแต่กระดูก โดยนางพยัพ โนนสังข์ ได้ยืนยันว่าศพดังกล่าว เป็น น.ส.เสาวลักษณ์ เนื่องจากจำเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อนออกจากบ้านได้ และจากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเสียชีวิตด้วยเหตุใด เนื่องจากศพเน่าเปื่อย จึงได้นำส่งให้โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้มาตรวจสอบและเก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุ พบ ก้นบุหรี่ ยาเส้น ขวดน้ำ ผ้าห่ม ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย จึงนำไปตรวจสอบกับดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยต่อไป

>> แม่ใจสลาย สาวหายออกจากบ้าน 22 วัน กลายเป็นศพซุกในท่อคอนกรีต

โดย นางพยัพ แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะหายตัวไป 2 วัน ลูกสาวได้มีเรื่องทะเลาะกับคนชื่อนายรวม ซึ่งเป็นแฟนที่กำลังคบหาดูใจกัน เรื่องที่ลูกสาวหันไปคบกับแฟนคนเก่าและหลังจากที่ลูกสาวหายไป นายรวมก็แทบจะไม่มาถามข่าวคราวเลย ในเบื้องต้นตนคิดว่าลูกสาวจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน ส่วนใครจะเป็นคนฆ่านั้น คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานให้ได้เสียก่อน

ขณะที่ นายสมเกียรติ  อายุ 61 ปี ผู้พบรถจักรยานยนต์เป็นคนแรก กล่าวว่า สวนดังกล่าว เป็นของคนกรุงเทพฯ ที่จ้างให้ตนดูแล โดย 1 ปีจะเข้ามาถางหญ้าให้ ครั้งล่าสุดวันที่ 10 พ.ย.62 ที่ผ่านมา ตนเข้ามาถางหญ้ารอบบ้าน และพบว่ามีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ภายในบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งผิดปกติ ตนจึงไปแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้นตำรวจก็เข้ามาตรวจสอบและนำรถจักรยานยนต์ไปเก็บไว้ที่โรงพัก แต่ในวันดังกล่าวไม่มีใครได้กลิ่นเหม็นอะไรเลย ทั้งๆ ที่ท่อน้ำที่ทิ้งศพอยู่ห่างจากตัวบ้านไม่ถึง 5 เมตร

ด้าน พ.ต.อ.ฐิติภัทร อินทรลักษณ์ ผกก.สภ.บ้านโคก กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งว่า พบรถจักรยานยนต์ของผู้สูญหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกติดตามหาข่าว และค้นหาจนกระทั่งพบศพ แต่ในเบื้องต้นยังไม่ฟันธงว่าเป็นการฆาตรรรม เพราะต้องรอผลพิสูจน์จากตำรวจพิสูจน์หลักฐานและจากโรงพยาบาลเสียก่อน แต่ในเบื้องต้นได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งสองราย คือ แฟนคนเก่ากับแฟนคนใหม่ มาทำการสอบสวนเบื้องต้น ซึ่งคาดว่าหากผลตรวจพิสูจน์ออกมา ก็จะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน ล่าสุดเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโคก ได้มานำรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตกลับไปตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมเชิญตัวแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน  และนางพยัพ  แม่ของผู้เสียชีวิต ไปทำการสอบสวน และปล่อยตัวกลับ

นางพยัพแม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากพบศพลูกสาวรู้สึกสบายใจขึ้น และได้นอนหลับเมื่อคืนนี้ ส่วนศพลูกสาวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งไปผ่าพิสูจน์ที่จังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่จะส่งมาให้ตอนเย็นวันนี้ อยากให้ลูกมาเข้าฝัน อยากให้เขามาบอกชื่อคนที่ทำร้าย วันนี้เจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวแม่ไปสอบ ส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเอาไปตรวจสอบ ฝากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาตัวคนร้ายมาลงโทษ และถ้าจับได้แม่อยากถามเขาว่า เขาทำด้วยสาเหตุอะไรและถ้าหากคนร้ายมาขออโหสิกรรม แม่ก็พร้อมอโหสิกรรม และขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรงจดำเนินการตามกฎหมาย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook