เล็งขอรบ.ประกันความเสียหายปล่อยกู้ท่องเที่ยว
ทั้งนี้กระทรวงท่องเที่ยวฯ จะไปหารือกับกระทรวงการคลัง ให้ตัดข้อความว่า การให้กู้ต้องมีประสิทธิภาพและโปร่งใส โดยให้ใช้ถ้อยคำที่ยืดหยุ่นได้ เพื่อให้เอสเอ็มอีแบงก์ พิจารณาการปล่อยกู้ได้รวดเร็วขึ้น โดยเอสเอ็มอีแบงก์รับปากแล้วว่า หากรัฐบาลรับประกันความเสี่ยงหากเกิดความเสียหายจากการปล่อยกู้ ก็จะเร่งขั้นตอนอนุมัติเงินกู้ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทันที นอกจากนี้จะให้ขยายเวลาให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทำเรื่องขอเงินกู้เพิ่มสภาพคล่องตามโครงการนี้ไปอีก 1 ปี จากเดิม จะสิ้นสุด 31 ก.ค.นี้ ให้ไปสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.53 เนื่องจากเห็นว่ามีผู้ประกอบการต้องการเงินกู้อยู่มาก
''ที่ผ่านมาผู้ประกอบการยังไม่ได้เงินกู้ ทั้งที่ขอไปนานแล้ว เพราะติดขัดปัญหา คือ มติครม. ไม่ชัดเจน ขั้นตอนการปฏิบัติของเอสเอ็มอีแบงก์ มีหลายขั้น มีทั้งขอดูงบการเงินย้อนหลัง 6 เดือน ดูรายละเอียดอื่นประกอบ ทำให้ใช้เวลานานกว่าจะผ่านครบทุกขั้นตอน และผู้ประกอบการหลายราย ค้างชำระหนี้นานเกิน 3 เดือน กลายเป็นกลุ่มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) จึงเกิดปัญหาเอสเอ็มอีแบงก์ไม่กล้าปล่อยกู้ เพราะรัฐบาลไม่ได้รับประกันความเสียหายให้ เอสเอ็มอีแบงก์จึงระบุมาว่า หากรัฐบาลรับประกันได้ว่า ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้นกับเอสเอ็มอีแบงก์ จากโครงการนี้ แล้วรัฐบาลจะชดใช้ค่าเสียหายให้ เรื่องนี้ก็จะสะดวกขึ้น'' นายชุมพล กล่าว.
ด้านนายเจริญ วังอนานนท์ โฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟตต้า) กล่าวว่า เอกชนเข้าใจโดยตลอดว่า วงเงินกู้ที่ให้เอกชนไปขอกับเอสเอ็มอีแบงก์ตามโครงการช่วยเหลือที่ภาครัฐมี เป็นวงเงินที่รัฐบาลให้เอสเอ็มอีแบงก์ไปบริหาร เพิ่งจะทราบวันนี้ว่า เป็นวงเงินของเอสเอ็มอีแบงก์เอง รัฐบาลรับภาระแค่ส่วนต่างดอกเบี้ย หากรัฐบาลรับประกันความเสียหายจากเงินกู้ ก็เชื่อว่าจะทำให้เรื่องการปล่อยกู้ง่ายขึ้น แต่เอกชนเชื่อว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่รัฐบาลจะยอม.