"ประวิตร" โยนให้ตำรวจจัดการ "มงคลกิตติ์" ดราม่าพกระเบิดเข้าสภา

"ประวิตร" โยนให้ตำรวจจัดการ "มงคลกิตติ์" ดราม่าพกระเบิดเข้าสภา

"ประวิตร" โยนให้ตำรวจจัดการ "มงคลกิตติ์" ดราม่าพกระเบิดเข้าสภา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.อ.ประวิตร โยนตำรวจจัดการ "มงคลกิตติ์" นำสารตั้งต้นระเบิดเข้าสภา ยังไม่รู้กลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวภาคใต้ มั่นใจมาตรการ รปภ.ประชุมอาเซียน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์นำสารประกอบวัตถุระเบิดเข้ารัฐสภา ก่อนแถลงพร้อมรับมอบเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่นใหม่จากบริษัทในสหรัฐอเมริกา เพื่อมอบให้รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 2 เครื่อง เมื่อวานนี้ว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องไปดูในข้อกฎหมายว่ามีความผิดหรือไม่

ส่วนที่สารตั้งต้นระเบิดที่นำมานั้นสามารถผ่านเครื่องแสกนของรัฐสภาได้ โดยไม่แจ้งเตือนแสดงให้เห็นว่าไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ก็คงต้องไปสอบสวนกันอีกครั้งหนึ่งขณะที่การทำเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การเป็น ส.ส. หรือไม่นั้น ก็แล้วแต่จะคิด ส่วนตัวไม่ทราบ

ประเด็ฯที่ นายมงคลกิตติ์ อ้างว่า มีรายงานจากฝ่ายความมั่นคงว่ามีผู้ก่อการร้ายเข้ามาอยู่ในภาคใต้นั้น ตนไม่ทราบ พร้อมมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 4 พฤศจิกายนนี้ด้วย

พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า นโยบายและเป้าหมายของรัฐบาล ในการพัฒนาพื้นที่ จชต. ที่ต้องการเร่งรัดพัฒนาทุกมิติไปพร้อมกันตามวิถีอัตลักษณ์ท้องถิ่น ให้มีความสมดุลและเท่าเทียมกับภูมิภาคอื่นของประเทศ โดยมุ่งสู่ความเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการพัฒนาในระดับอนุภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศโลกมุสลิม ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ด้วยการจัดสรรให้มีที่ดินทำกิน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ปราศจากอิทธิพลกดทับ

ทั้งนี้ เชื่อว่า การสร้างงาน การสร้างอาชีพและสร้างโอกาสให้กับประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ในพื้น จะเป็นต้นทางนำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ จชต.

นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ทุกฝ่าย ประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด มี กอ.รมน.ภาค 4 ทำหน้าที่หลัก ด้านงานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในขณะที่ ศอบต.เป็นเจ้าภาพ กำหนดเป้าหมายและกรอบการพัฒนาที่ชัดเจนตามลำดับ โดยมี สมช. ทำหน้าที่เชื่อมโยงมิติความมั่นคงและการพัฒนาอย่างประสานสอดคล้องกัน ซึ่งจำเป็นต้องให้น้ำหนักในการสื่อสารทำความเข้าใจและสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook