"พี สะเดิด" ร้อง ปอท.ถูกกล่าวหาใช้ศาสนาบังหน้าหารายได้

"พี สะเดิด" ร้อง ปอท.ถูกกล่าวหาใช้ศาสนาบังหน้าหารายได้

"พี สะเดิด" ร้อง ปอท.ถูกกล่าวหาใช้ศาสนาบังหน้าหารายได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักร้องชื่อดัง "พี สะเดิด" ร้อง ปอท.เอาผิด คนใส่ร้ายกล่าวหาใช้ศาสนาบังหน้า-หารายได้

นายพีรพัฒน์ สวัสดิ์มูล หรือ พี สะเดิด นักร้องชื่อดัง พร้อมทนายความ นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. จากกรณีมีบุคคลไม่หวังดีโพสต์ข้อความกล่าวหาในสื่อโซเชียลว่า จัดทัวร์คอนเสิร์ตในต่างประเทศ โดยใช้ชื่อ “โครงการสืบทอดศาสนาสืบสานวัฒนธรรมเพื่อนำเงินไปสร้างวัดไทย และบำรุงศาสนาพุทธในต่างแดน” แต่ความจริงคือการใช้ชื่อโครงการเพื่อบังหน้าหารายได้ให้ตัวเอง โดยเรียกเงินจากวัดเป็นจำนวน 6,000 ยูโร

พี สะเดิด กล่าวว่า แฟนคลับไปพบเห็นโพสต์ที่กล่าวหาตนและทีมงานว่า โกงเงินค่างานแสดงในโครงการสืบทอดศาสนาสืบสานวัฒนธรรมไทยที่ยุโรป บน “เพจสตรีไทยที่ฝรั่งเศส” ซึ่งมียอดติดตามกว่า 5,000 ราย ทำให้ตนกับทีมงานรู้สึกตกใจและบั่นทอนจิตใจมาก จึงต้องขอชี้แจงว่าแรกเริ่มโครงการดังกล่าวเกิดหลังจากที่มีพระไทยรูปหนึ่งมาชักชวนทำกฐินทอดผ้าป่า

และเมื่อตนไปเห็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของวัดดังกล่าวในต่างจังหวัด พบว่ามีลักษณะเป็นเหมือนบ้านเช่า ตนจึงรับปากกับพระจะบำรุงสถานที่ให้ และเริ่มทำโครงการดังกล่าวขึ้นมาจนปัจจุบันก็เป็นเวลา 7 ปี มีเพื่อนดารามาร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมและเล่นกีฬากับชาวต่างชาติกันตลอด ซึ่งโครงการก็จบลงด้วยดี

แต่ทั้งนี้จะมีเงินที่ได้หลังหักค่าใช้จ่ายในการแสดงคอนเสิร์ตราว 250,000 บาท เพื่อเป็นค่าที่พักค่าเดินทางของทีมงาน ส่วนทางวัดจะได้เงินจากการที่ตนเองไปแสดงคอนเสิร์ตเท่าไหร่นั้น ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด เพราะทางวัดจะเป็นผู้ดำเนินการกับเงินทั้งหมด ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเงินเข้าบัญชีวัดโดยตรงหรือไม่

นอกจากนี้ หากวัดใดที่เดือดร้อน หรือต้องการความช่วยเหลือ ตนเองก็จะไม่รับเงินจากการแสดงคอนเสิร์ต

สำหรับบุคคลที่กล่าวหาว่าตนฉ้อโกงนั้น เบื้องต้นพบเป็นพ่อค้าซึ่งขายของอยู่ในโรงทานที่วัดในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งตนเองเคยไปแสดงคอนเสิร์ตภายในวัดดังกล่าว เบื้องต้นเชื่อว่าพ่อค้ารายนี้น่าจะไปรับฟังข้อมูลที่บิดเบือน จึงนำมาเผยแพร่โดยไม่ทราบความจริง แต่ว่าการกระทำดังกล่าว ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง มีผลกระทบต่ออาชีพ เพราะคนที่ไม่รู้ความจริงก็อาจจะเข้าใจผิดไปในวงกว้าง อีกทั้งยังเป็นการบั่นทอนกำลังใจของตนเองและจิตอาสาที่มาร่วมโครงการคนอื่นๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook