ฟ้อนเล็บ

ฟ้อนเล็บ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมืองไทย 25 น.

นายมหาเศรษฐี

ก็ดีที่แบงก์ชาติออกมาเตือนให้ชาวบ้านอย่าได้ตื่นตระหนกกับตัวเลขเงินเฟ้อครึ่งแรกปีนี้ที่ติดลบอย่างต่อเนื่องตลอด 6 เดือนด้วยเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหาเงินฝืดขึ้นมาเลย

ยืนยันหนักแน่นว่าครึ่งหลังของปีนี้ไม่มีเงินฝืดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

เพราะสาเหตุที่เงินเฟ้อครึ่งแรกปีนี้ติดลบอย่างต่อเนื่องนั้นมันเกิดจากโครงการประชานิยม 5 มาตรการนาน 6 เดือนและนโยบายเรียนฟรีของรัฐบาลเป็นสำคัญ ลองไม่มีปัจจัยนี้เข้ามาแทรกสิรับรองได้เห็นเงินเฟ้อพุ่งกระฉูด

เหตุที่ต้องชมแบงก์ชาติที่ไวกับเรื่องนี้เป็นเพราะถ้าไม่รีบออกมาอธิบายความจริงให้สาธารณชนประจักษ์รับรองว่าจะต้องมีคนนำเรื่องดังกล่าวไปแปรความในทางลบแล้วขยายต่อเพื่อหวังผลทางการเมืองแน่

ยิ่งในภาวะที่รัฐบาลกำลังเผชิญกับวิกฤตศรัทธาด้วยข้อหาไม่มีผลงานเช่นยามนี้ด้วย อะไรที่เป็นข่าวร้ายชาวบ้านก็พร้อมที่จะเชื่อในทันทีกันทั้งนั้น

และถ้าดูเรื่องเงินงบประมาณรายจ่ายฤดูใหม่ของรัฐที่จะเริ่มกระจายในปลายปีนี้บวกเงินนอกงบประมาณจากการกู้ 8 แสนล้านทับถมเข้ามาอีก แล้วมันจะเกิดเงินฝืดขึ้นได้อย่างไร

แทนที่จะมาห่วงในเรื่องเงินฝืดซึ่งเปลี่ยนเป็นหันมาดูเรื่องการไม่มีเงินพอใช้ของชาวบ้านแทนดีกว่าเพราะนี่คือปรากฏการณ์แท้จริงที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทย

ภาคธุรกิจขาดเงินทุนหมุนเวียนเพราะธนาคารไม่ยอมปล่อยสินเชื่อให้ ภาคประชาชนมีรายได้คงที่หรือลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ขณะราคาสินค้าเอาแต่ปรับตัวสูงขึ้น

และจะดีมากขึ้นไปอีกหากแบงก์ชาติเข้าไปแทรกแซงหาทางบังคับให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจต่างๆ มากกว่าที่ผ่านมา

ทราบดีว่าแบงก์ชาติไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะไปบังคับสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ทำเช่นนั้นได้ แต่การใช้อำนาจทางอ้อมในฐานะผู้กำกับดูแลนโยบายด้านการเงินของประเทศก็น่าจะอยู่ในวิสัยพอนำมาดัดแปลง เว้นแต่จะเกรงชายกระโปรงเปื้อนเท่านั้น

คลายเกลียวนอตตัวนี้ให้ผ่อนลงบ้างได้เมื่อไหร่ภาวการณ์ลงทุนของภาคเอกชนก็กระเตื้องขึ้นเมื่อนั้น ซึ่งก็จะสมทบกับเงินหลวงที่กำลังทะลักออกมาพอดี เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะได้หายจากภาวะซบเซาเสียที

และเมื่อเศรษฐกิจกระเตื้องการจ้างงานก็จะเพิ่มมากขึ้น ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเองในที่สุด

ที่ผ่านมาแบงก์ชาติเอาแต่รำฉุยฉายอยู่บนหอคอยงาช้าง ลองเปลี่ยนบทใหม่เป็นรำฟ้อนเล็บใส่ธนาคารพาณิชย์แทนบ้างก็น่าจะดี

อย่างน้อยก็ดีกว่าการนั่งดูภาคธุรกิจทยอยล้มไปต่อหน้าอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเอาเสียเลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook