ประวิตรอึดอัดถูกปฐมพงษ์จวกไม่รู้เรื่องไฟใต้ พท.ซัดนายกฯสัมภาษณ์ไม่เชื่อกลุ่มก่อการร้ายยิงมัสยิด

ประวิตรอึดอัดถูกปฐมพงษ์จวกไม่รู้เรื่องไฟใต้ พท.ซัดนายกฯสัมภาษณ์ไม่เชื่อกลุ่มก่อการร้ายยิงมัสยิด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พท.ชี้ปชช.ไม่เชื่อฝีมือโจรใต้ยิงมัสยิด อ.เจาะไอร้อง ถาวรรับปากจับตัวการลงโทษ โฆษกกลาโหม แจงประวิตรไม่สบายใจปฐมพงษ์อัดแก้ปัญหาไฟใต้ไม่ได้ ชี้ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง โต้ผบ.ทบ.ไม่จำเป็นต้องค้าง เย้ยมีข้อมูลคลาดเคลื่อน จับมือบึ้ม-ยิง ตชด.จะแนะหลบห้องใต้ดินได้1

พท.ชี้ปชช.ไม่เชื่อฝีมือโจรใต้

ในระหว่างการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงเหตุการณ์ยิงถล่มใส่มัสยิดที่ อ.เจาะไอร้อง ว่า นายกฯออกมาให้สัมภาษณ์เป็นฝีมือของผู้ก่อการร้าย แต่ประชาชนในพื้นที่ไม่คิดเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้าย เพราะกลุ่มผู้ก่อการก็ล้วนเป็นชาวมุสลิมเหมือนกัน ก่อนให้สัมภาษณ์ของนายกฯ รองนายกฯและ รมช.มหาดไทย ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความแตกร้าว แตกแยกด้านจิตใจได้

นายถาวร เสนเนียม ชี้แจงว่า นายกฯไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าเหตุการณ์ยิงถล่มมัสยิดดังกล่าวเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายกลุ่มไหน และมอบหมายให้หน่วยงานความมั่นของรัฐ ทั้งตำรวจ ทหาร ร่วมกันสืบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ได้ตัวผู้ก่อการมาลงโทษให้เร็วที่สุด

สุเทพการันตี3ปีเห็นผล

ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจจริง การใช้งบฯมุ่งไปที่ประชาชน ตั้งเป้าว่า ใน 3 ปี คนจนใน 3 จังหวัดภาคใต้ จะมีรายได้ถึงครอบครัวละ 1.2 แสนบาทต่อปี ซึ่งเป็นรัฐบาลแรกที่กล้ากำหนด ซึ่งที่กำหนดแบบนี้เพราะศึกษาแล้ว มีแผนชัด นอกจากนี้ยังใช้เจ้าหน้าที่มาช่วยการพัฒนาด้วย ถนนยะลา-ปัตตานี ปลายปี 2552 เสร็จ รัฐบาลมั่นใจว่าถ้าทำตามแนวทางนี้ ใน 3 ปีนี้เห็นหน้าเห็นหลังแน่

ประวิตรอึดอัดปฐมพงษ์จวกไม่รู้เรื่องไฟใต้

พล.ต.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีพล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวพาดพิงการปฏิบัติงานการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกว่า ความจริงทหารทุกคนทั้งในและนอกราชการ อยากเห็นบ้านเมืองมีความสงบสุข แต่บางครั้งท่านอาจได้รับข้อมูลที่แตกต่างกัน จึงมีความคิดเห็นแตกต่างกันไป ซึ่งกรณีที่มีการพาดพิง พล.อ.ประวิตร คงเกิดจากข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในบางประเด็น เพราะความจริงแล้ว พล.อ.ประวิตรไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบปัญหาในพื้นที่ภาคใต้โดยตรง เพราะเป็นหน้าที่ของ กอ.รมน. ดังนั้น การกล่าวหาของพล.อ.ปฐมพงษ์ จึงทำให้พล.อ.ประวิตรรู้สึกอึดอัดใจและไม่ค่อยสบายใจ

ส่วนกรณี พล.อ.ปฐมพงษ์ โจมตีการทำงานของ พล.อ.อนุพงษ์ ว่าไม่ได้นอนในพื้นที่ภาคใต้ จึงแก้ไขปัญหาไม่ถูกต้องนั้น พล.ต.จิตตสักก์ กล่าวว่า ตนมองว่า พล.อ.อนุพงษ์ เกาะติดงานในพื้นที่ภาคใต้มาตลอด และมีข้อมูลในพื้นที่ภาคใต้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ คงมีวิจารณญาณที่เหมาะสมแล้วในการลงพื้นที่ และบางครั้งอาจไม่จำเป็นต้องนอนค้างในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ เพราะมีเจ้าหน้าที่โดยตรงดูแลอยู่แล้ว ตนเชื่อว่ากองทัพตอบข้อข้องใจได้ทุกประเด็น และกองทัพคงจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และคงจะรู้จักวิธีใช้บอลลูนเหาะอย่างเหมาะสม ที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ พูดคงเป็นข้อมูลที่ได้รับมาอย่างคลาดเคลื่อน ซึ่งการที่มีข้อมูลไม่ตรงกันทำให้คิดไม่เหมือนกันได้

ผบ.ตร.ยันป่วนใต้ไม่เกี่ยว เจไอ

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร. ยังไม่พบข้อมูลกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จับกุมนายมะฮัมหมัด อาลี ฮุสเซ็น นายหน้าค้าอาวุธสงคราม โดยพบเอกสารโยงใยอาชญากรรมข้ามชาติ และการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่า เท่าที่ตรวจสอบเชื่อว่าเป็นความขัดแย้งภายในพื้นที่ ไม่เกี่ยวกับกลุ่มเจไอ (เจมาอิสลามิยาห์) แต่อาจเป็นเพราะกลุ่มผู้ก่อการร้ายพยายามทำให้เป็นการก่อการร้ายสากล

ในพื้นที่ยังมีปัญหาเรื่องค้ายาเสพติดเกี่ยวข้อง มีการก่อเหตุเพื่อให้ขนย้ายยาเสพติดได้สะดวก ด้านการข่าวยังมีช่องโหว่ให้คนร้ายใช้ก่อเหตุ ต้องพิจารณาปรับปรุง เน้นการข่าว เพราะที่ผ่านมนปฏิบัติ เท่าที่ประเมินด้านการข่าวกลุ่มก่อการร้ายก็เหมือนเดิมไม่ได้พัฒนาไปมากกว่าเดิม ผบ.ตร.กล่าว และว่า ส่วนชาวโรฮิงญาจากการข่าวเกี่ยวข้องน้อยมาก ส่วนที่ดีเอสไอจับกุมมานั้นจะเกี่ยวข้องกลุ่มก่อการร้ายภาคใต้หรือไม่นั้นต้องมีพยานหลักฐานยืนยันก่อน จะไปคิดเองไม่ได้ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด

ชี้ข่าวทหารพันเรื่องเก่าอ้างไม่ได้

พล.ต.อ.พัชรวาทยังกล่าวถึงกรณีมีข่าว 2 นายพล 1 นายพัน เข้าไปมีส่วนสร้างสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่นั้นว่า ตำรวจไม่มีหรอก ส่วนที่ว่าเป็นทหารนั้นก็มีที่เป็นข่าวเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องนานมาแล้ว เป็นเรื่องของคนเดิม นำมากล่าวอ้างไม่ได้

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวขบวนการข้ามชาติอาจจะเข้ามาเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เรื่องความเชื่อมโยงหรือไม่หน่วยงานที่รับผิดชอบในส่วนใดก็ทำไป ข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์ได้มีการประสานกันอยู่แล้ว ทั้งด้านการข่าว โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะเป็นหน่วยงานหลัก ส่วนใดที่มีการสืบลึกทางกองทัพก็สืบลึกเช่นกัน ในพื้นที่มีการแชร์ข้อมูลกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ในพื้นที่จะบานปลายหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ไม่บานปลาย เชิญ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผบ.หน่วยงานในพื้นที่มาพูดคุยถึงแนวทางทำให้เกิดความปลอดภัยในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น โดยให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก

มท.3ติงอย่าด่วนสรุปทหารเอี่ยว

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สั่งให้ตรวจสอบข้อมูลกรณีตำรวจจับกุมชาวโรฮิงญา 3 คน ว่าหลบหนีเข้าเมืองมีบุคคลหรือกระบวนการในลักษณะเข้ามาก่อความไม่สงบจริงหรือไม่และจำนวนเท่าใด ทั้งนี้ คงต้องจับตาดูกลุ่มที่เข้าเมืองผิดกฎหมายเหล่านี้มากเป็นพิเศษว่ามีความสัมพันธ์กับองค์กรใดๆหรือไม่ ส่วนชาวโรฮิงญา 3 คน ที่ถูกจับกุมจะมีความเกี่ยวพันกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคใต้จริงหรือไม่ คงต้องให้เป็นความลับในชั้นการสอบสวน

ส่วนที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลระบุว่า มีนายพล 2 นาย และนายพันอีก 1 นาย หาประโยชน์จากความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายถาวรกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป ขอให้เป็นเรื่องการดำเนินการภายในองค์กร ซึ่งผู้บังคับบัญชาคงจะตรวจสอบอยู่แล้ว

ปัดแหยงทหาร-ดัน สบ.ชต.ต่อ

เมื่อถามมีการวิจารณ์ว่าทหารพยายามเตะถ่วงออกกฎหมายจัดตั้งสำนักงานการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สบ.ชต.) เพราะจะทำให้ได้งบประมาณลดลง นายถาวรกล่าวว่า อยู่ที่นโยบายฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำไม่มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลแน่นอน รัฐบาลไม่ได้แหยงทหาร ยืนยันจะผลักดันกฎหมาย สบ.ชต.ต่อไป

ชวนชี้แก้ใต้อย่าใช้สูตรทดลอง

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เหตุการณ์ขึ้นมาตลอด 5-6 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิด จึงไม่ใช่ว่าเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้วทุกอย่างจะจบ ทั้งนี้การแก้ปัญหารัฐบาลจะต้องฟังข้อมูลจาก ส.ส.ในพื้นที่ให้มาก ไม่ว่ามาจากพรรคใดก็ตาม ที่สำคัญต้องไม่มองข้ามมวลชนส่วนใหญ่ การข่าวของรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญ ต้องไม่ลืมว่าประชาชนในพื้นที่เป็นพี่น้องกัน หากคนในครอบครัวก่อเหตุจะให้พ่อแม่ไปแจ้งเจ้าหน้าที่คงยาก การสร้างความร่วมมือในพื้นที่ต้องใช้เวลา อย่าสร้างเงื่อนไขให้เกิดความเจ็บแค้น เลิกใช้วิธีอุ้มฆ่า ให้ใช้ความเด็ดขาดทางกฎหมายแทน

เรื่องความมั่นคงของชาติไม่ใช่เครื่องมือทดลอง อย่างการยกเลิก พตท.43 บริหารจังหวัดชายแดนใต้ ไม่ต่างจากจังหวัดอื่นๆ พอเอานโยบายด้านความมั่นคงมาทดทอง ลองผิดแล้วบอกว่าไม่เอาก็ไม่ได้ ต้องศึกษาให้รอบคอบกรณีที่จะจัดตั้ง สบ.ชต.มาแก้ปัญหา ก็ต้องดูว่าดีกว่าของเดิมหรือไม่ ถ้าไม่ดีก็ต้องเปลี่ยน ทุกคนต้องอ่านประวัติศาสตร์ นายชวนกล่าว

เมื่อถามว่าการที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ลงพื้นที่เลย นายชวน กล่าวว่า มาเป็นรัฐบาลเดียวกันจะมาแบ่งพรรคไหนดูอะไรไม่ได้ ถ้าสำเร็จก็สำเร็จร่วมกัน ล้มเหลวก็ต้องล้มเหลวทั้งรัฐบาล ตนไม่ได้คุยกับนายชวรัตน์เป็นการส่วนตัว แต่คุยกับนายถาวรให้ไปบอกรัฐบาล คงไม่ไปก้าวก่ายอะไรเกินเหตุ

ยิงร้านอาหารยะลาเจ็บ3-รวบ8โจ๋

ส่วนการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ยังคงมีต่อเนื่อง ล่าสุด เวลา 12.15 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ร้านอาหารป้านาเลขที่ 174 ถนนสุขยางค์ เขตเทศบาลตำบลบันนังสตา จ.ยะลา ข้างโรงเรียนบันนังสตาวิทยา ห่างจาก สภ.บันนังสตา ประมาณ 20 เมตร กระสุนถูกหน้าอก นางชิดสุดา วงประชา อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่บริหารชำนาญการ สาหัส และถูกขานางอรนุช กาญจณภูมิ อายุ 39 ปี หัวหน้าฝ่ายตรวจสอบภายในของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 และ อส.หญิง สุวนิตย์ คอสม อายุ 35 ปี บาดเจ็บ ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา

เวลาไล่เลี่ยกันคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่จุดตรวจประชาชน ที่สามแยกบันนังสตา และ ด้านหลัง สภ.บันนังสตา ไม่มีผู้บาดเจ็บ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา และกำลังชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และทหารรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกันประชาชนออกมา เมื่อตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ในถังขยะ ประตูทางเข้าโรงเรียนบันนังสตาวิทยา จึงยิงทำลาย พบว่าเป็นระเบิดชนิดซีโฟร์ น้ำหนักประมาณ 5 กก. บรรจุในกล่อง จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ สภ.บันนังสตา ได้ควบคุมตัวชายวัยรุ่น 8 คน เนื่องจากตรวจสอบมีเขม่าดินปืน นำตัวไปสอบสวน ที่ สภ.บันนังสตา พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ได้ 1 คัน

5ร.ร.ยะลาปิดเรียนหลังครูถูกยิง

ขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 1 ระบุว่า หลังจากเกิดเหตุคนร้ายยิง น.ส.เรขา อิสสระ อายุ 54 ปี ครูโรงเรียนบ้านพอแม็ง ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์เดินทางออกจากบ้านพักไปโรงเรียน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ผู้บริหารโรงเรียนใกล้เคียงรวม 5 แห่ง ได้ประกาศหยุดการเรียนการสอน เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย ได้แก่โรงเรียนบ้านพอแม็ง โรงเรียนพัฒนาบาลอ โรงเรียนบ้านละแอ โรงเรียนบ้านปูลัย และโรงเรียนบ้านบือยอง เปิดการเรียนการสอนในวันที่ 22 มิถุนายนพร้อมกัน

จับมือบึ้ม-ยิง ตชด.จะแนะได้ 1

เวลา 15.00 น. พ.ต.ต.ดิเรก โฉมยงค์ สารวัตรสืบสวน กองบังคับการปราบปราม ช่วยราชการงานสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) จ.ยะลา นำหมายศาลเข้าค้นบ้านเลขที่ 80/2 บ้านบองอ หมู่ 4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จับกุมตัวนายรอมสือสา บองอแม อายุ 26 ปี ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินบ้านหลังดังกล่าวได้ คุมตัวไปสอบปากคำขยายผล ฉก.นราธิวาส 38 เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ สภ.จะแนะ คดีลอบวางระเบิดร้านขายของชำ บ้านดุซงญอ อ.จะแนะ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 และร่วมกับพวกใช้ปืนสงครามยิงจุดตรวจ ตชด.2401 ช่วยราชการ อ.จะแนะ ที่สี่แยกบ้านดุซงญอ ทำให้ ตชด.ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2552

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook