อบต.หนุ่มเล่านาที 5 ชายฉกรรจ์รุมสกัม-เจ็บระบม สงสัยทำแบบนี้ทำไม

อบต.หนุ่มบุรีรัมย์ฟื้นคืนสติแล้ว หลังโดน 5 ชายฉกรรจ์รุมทำร้ายกลางถนน ยังคงสงสัยว่าทำแบบนี้ทำไม ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องกันมาก่อน

จากกรณีเหตุชายฉกรรจ์ 5 คน แต่งกายคล้ายแก๊งทวงหนี้ ขี่รถจักรยานยนต์มากัน 3 คัน และชนท้ายรถจักรยานยนต์ของ นายกฤษณะ พนักงานจ้างเหมาบริการปฏิบัติงานฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.บัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่บริเวณจุดกลับรถด้านหน้าวิทยาลัยชุมชนบุรีรัมย์ หลังจากนั้นได้รุมทำร้าย โดยใช้ไม้เบสบอลที่ตอกตะปูกระหน่ำตีได้รับบาดเจ็บสาหัส ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุด นายกฤษณะ หนุ่ม อบต.ที่ต้องเป็นเหยื่อถูกรุมทำร้าย ได้ฟื้นคืนสติและรู้สึกตัว แต่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรมชั้น 6 โรงพยาบาลบุรีรัมย์ หลังเข้ารักการผ่าตัดขาขวาท่อนล่าง เพราะถูกของแข็งตีจนกระดูกหัก ทั้งต้องให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อ และให้ยาแก้ปวดทุกๆ 4 ชั่วโมง ทั้งนี้แพทย์ยังต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

นายกฤษณะ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นชายฉกรรจ์ที่แต่งกายคล้ายแก๊งทวงหนี้ ใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ปิดบังใบหน้ามิดชิด มาจอดที่ร้านค้าในหมู่บ้านติดต่อกันถึง 3 วัน ซึ่งร้านค้าดังกล่าวเป็นทางผ่านของตนระหว่างไปทำงานอยู่แล้ว โดยตอนที่ตนขี่รถผ่านไป ก็เหลียวหันไปมองดูตามปกติ ไม่ได้ทำท่าจ้องแบบหาเรื่องแต่อย่างใด

>> 5 ชายโฉดรุมฟาด อบต.หนุ่ม ลากเข้าข้างทางกระทืบซ้ำ แค้นถูกมองหน้า

อีกทั้งชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวก็สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ตนไม่ได้เห็นหน้าตาพวกเขาเลย และขอยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือผิดใจกับใคร เพราะตนไม่ได้ออกไปเที่ยวหรือสุงสิงกับใครเลย ก็ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวถึงได้มารุมทำร้าย หากจับกุมได้ก็อยากจะถามเหตุผลเหมือนกัน

อีกทั้ง ถ้าหากกลุ่มคนร้ายไม่พอใจที่ตนไปมองหน้า จึงมารุมทำร้ายกันเช่นนี้ ตนคิดว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงมาก ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย ซึ่งหลังจากที่ถูกทำร้ายครั้งนี้ เกิดกระทบทั้งเรื่องการทำงานและครอบครัว ตนไม่รู้ว่าจะต้องรักษาตัวอีกนานแค่ไหน จึงจะกลับไปทำงานได้ ก็อยากวอนให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย

ขณะที่ น.ส.ปุณณดา อายุ 27 ปี ภรรยาของหนุ่ม อบต.ที่ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ครั้งนี้เป็นการกระทำที่โหดร้ายมาก ยิ่งถ้าหากเป็นความไม่พอใจกันแค่มองหน้าผ่านๆ แล้วก็ตาม เพราะคนเราขี่รถผ่านก็ต้องหันมองไปมาเป็นเรื่องปกติ โดยไม่ได้มีเจตนาที่จะหาเรื่องอะไร จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวกลุ่มคนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว โดยคิดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ใช่คนในหมู่บ้านอย่างแน่นอน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ก็ได้ลงพื้นที่สอบสวนพยานแวดล้อม พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่ารถของกลุ่มผู้ก่อเหตุขับผ่าน เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้