"อนาคตใหม่" งัดโปรเจกต์ คสช. แฉประเคนผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่

พรรคอนาคตใหม่ เปิดโรงฉะโปรเจกต์ทิ้งทวน คสช. ชี้เป็นการประเคนผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่ วอนให้สังคมร่วมกันจับตา

นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงข่าวกรณีการทิ้งทวนอนุมัติโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการอย่างผิดปกติให้แก่กลุ่มทุนขนาดใหญ่ โดยรัฐบาล คสช.ที่กำลังจะหมดวาระ พร้อมขอให้สังคมช่วยกันจับตาโครงการเหล่านี้

โดยโครงการต่างๆ ในส่วนที่มีการอนุมัติผ่านไปแล้ว ประกอบด้วย

1. โครงการนำสายเคเบิลลงดิน หรือโครงการท่อร้อยสาย มูลค่า 20,000 ล้านบาท ที่รัฐให้สัมปทานกับบริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยโครงการนี้มีความน่ากังวล คือมีการผูกขาดถึงสองชั้น พรรคอนาคตใหม่จึงขอเรียกร้องว่าควรต้องนำเอาโครงการนี้เข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ รวมทั้งเปิดเผย TOR ให้แก่สาธารณชนรับทราบด้วย

2. โครงการยืดหนี้ให้แก่กลุ่มทุนโทรคมนาคมและทีวีดิจิทัล เป็นเม็ดเงินกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งพรรคขอเรียกร้องว่าควรต้องมีการประมูล ไม่ใช่การแจกใบอนุญาตแบบที่ผ่านมา

3. การให้สัมปทานร้านค้าปลอดภาษีใน 4 สนามบิน

ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ยังมีอีกสามโครงการด้านคมนาคมที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่อยากให้ประชาชนร่วมกันจับตามองเป็นอย่างยิ่งประกอบไปด้วย

1. โครงการขยายสัมปทานทางด่วน มูลค่ากว่า 424,756 ล้านบาท ให้กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ออกไปอีก 30 ปีโดยมิชอบ พรรคอนาคตใหม่เห็นว่าโครงการนี้มีความไม่ชอบมาพากล อีกทั้งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ดูแลงานด้านคมนาคมก็ออกมาพูดในทิศทางเดียวกัน ซึ่งตรงนี้เป็นสัญญาณที่ดีว่าจะไม่มีการกลับลำเกิดขึ้นในอนาคต

2. โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ให้กับกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งกรณีนี้พบความผิดปกติ จึงอยากรีบดำเนินการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อระงับและดำเนินการตรวจสอบในบางส่วน โดยเฉพาะประเด็นความน่าสงสัยต่างๆ

3. โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ-โคราช มูลค่ากว่า 180,000 ล้านบาท เป็นโครงการที่ขัดกับตรรกะของการพัฒนาเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม พรรคอนาคตใหม่พยายามทำหน้าที่ของตัวเองในระดับหนึ่ง การจับตาส่งเสียงเรียกร้องในสภาหลายครั้งยังไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องส่งสารไปยังประชาชนให้มาร่วมกันจับตาไม่ให้รัฐบาลกระทำการใดๆ ที่จะเสียผลประโยชน์ของประเทศชาติ