เผยเรื่องราวสะเทือนใจ เบื้องหลังภาพถ่ายพ่อลูกผู้อพยพจมแม่น้ำดับคาชายแดนสหรัฐ

เผยเรื่องราวสะเทือนใจ เบื้องหลังภาพถ่ายพ่อลูกผู้อพยพจมแม่น้ำดับคาชายแดนสหรัฐ

เผยเรื่องราวสะเทือนใจ เบื้องหลังภาพถ่ายพ่อลูกผู้อพยพจมแม่น้ำดับคาชายแดนสหรัฐ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในภาพถ่ายร่างของเด็กหญิงติดอยู่ด้านในเสื้อยืดของพ่อโดยแขนข้างหนึ่งของเด็กรวบที่รอบคอของบิดา ท่วงท่าทางกายที่ร่างทั้งสองชี้ว่าตัวพ่อและลูกสาวกอดกันตอนที่จมน้ำ

ผู้สื่อข่าว Julia Le Duc เป็นคนถ่ายภาพนี้ และได้ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์เม็กซิโก La Jornada และถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกหลังจากนั้น

Le Duc บอกว่า ชายในภาพคือ Óscar Alberto Martínez Ramírez กับลูกสาว Valeria ทั้งสองมาจาก El Salvador

Le Duc รายงานว่า Ramirez ได้พยายามข้ามแม่น้ำสายนี้ที่ไหลตามแนวชายแดนระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน ซึ่งเขาต้องทำเช่นนั้นหลังจากที่ไม่สามารถพาครอบครัวเข้าพบเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เพื่อขอลี้ภัย

ทีแรก Ramirez ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำไปก่อนกับลูกสาว และเมื่อไปถึงฝั่งได้วางลูกสาวไว้บนริมฝั่งของสหรัฐฯ และขณะที่เขากำลังว่ายน้ำกลับไปฝั่งเม็กซิโกเพื่อช่วยภรรยาชื่อ Tania Vanessa Ávalos ข้ามแม่น้ำ ลูกสาวได้กระโดดลงน้ำเพื่อพยายามไปหาพ่อ

Ramirez ว่ายน้ำกลับและจับตัวลูกสาวเอาไว้ได้ แต่กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากดึงได้ร่างของคนทั้งสองไปกับลำแม่น้ำ

Le Duc กล่าวว่ารายงานข่าวของเธอเป็นข้อมูลที่ได้จากตัวภรรยาของผู้เสียชีวิตที่บอกกับตำรวจที่มาสอบสวนในที่เกิดเหตุ

การค้นหาร่างของ Ramírez กับลูกสาวถูกล้มเลิกในค่ำวันอาทิตย์ ร่างของทั้งสองถูกพบในวันรุ่งขึ้นใกล้กับเมือง Matamoros ในเม็กซิโก อยู่ตรงข้ามกับเมือง Brownsville ของรัฐ Texas โดยห่างจากจุดที่ทั้งคู่พยายามว่ายน้ำข้ามฝั่งไปไม่กี่ร้อยเมตร และห่างจากสะพานนานาชาติที่เชื่อมสองประเทศไปเพียงหนึ่งกิโลเมตรเท่านั้น

​จากทะเลทราย Sonoran Desert ที่ร้อนจัด ไปจนถึงแม่น้ำ Rio Grande ที่ไหลเชี่ยวกรากที่ชายแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโก การเดินทางข้ามชายแดนเต็มไปด้วยอันตราย

เมื่อปีที่แล้ว ผู้อพยพ 283 คนเสียชีวิตขณะพยายามข้ามชายแดนแห่งนี้

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเด็กทารกสองคน เด็กเล็กหนึ่งคนและผู้หญิงหนึ่งคนที่พบเสียชีวิตจากความร้อนและในเดือนเมษายน มีเด็กสามคนและผู้ใหญ่หนึ่งคนจาก Honduras เสียชีวิตหลังจากเรือลำเล็กที่นั่งมาล่มในแม่น้ำ Rio Grande

Rosa Ramírez ผู้เป็นแม่ บอกว่าลูกชายของตนกับครอบครัวเดินทางออกจาก El Salvador ในวันที่ 3 เมษายน ตนเองได้ร้องขอไม่ให้ไป แต่ลูกชายอยากไปเก็บเงินเพื่อกลับมาสร้างบ้าน เธอบอกว่าลูกชายกับครอบครัวหวังว่าจะไปทำงานในสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ปีเท่านั้นเพื่อเก็บเงินสร้างบ้าน

บรรดาเจ้าหน้าที่เม็กซิโกกล่าวว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางถึงเมืองมาทามอรอส (Matamoros) เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน และได้ไปที่สถานกงสุลสหรัฐฯ เพื่อพยายามขอนัดวันเพื่อขอลี้ภัย แต่ต้องรอนานมาทั้งที่สถานกงสุลและที่ชายแดน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้อำนวยการของศูนย์พักพิงกล่าวว่า สหรัฐฯ สามารถจัดการสัมภาษณ์ได้เพียง 40 - 45 รายเท่านั้นในเมือง Matamoros และมีคนรออยู่ประมาณหนึ่งพันคน

Le Duc ผู้สื่อข่าว กล่าวว่า เธอได้เขียนในรายละเอียดเกี่ยวกับจุดที่พบศพ ว่าภาพของเด็กหญิงที่แขนข้างหนึ่งรวบไว้รอบคอบิดาทำให้เธอสะเทือนใจมากที่สุด เพราะแสดงว่าทั้งคู่กอดกันจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต

มอรีน เมเยอร์ (Maureen Meyer) แห่งหน่วยงานพิทักษ์สิทธิ์มนุษยชน Washington Office on Latin America กล่าวว่า ภาพถ่ายของผู้เสียชีวิตทั้งสองชี้ให้เห็นชัดเจนถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่เป็นผลพวงจากข้อจำกัดของฝ่ายสหรัฐฯ ว่าจะรับคนเข้าขอลี้ภัยได้เพียงวันละกี่ราย ตลอดจนการส่งคนที่ขอลี้ภัยกลับเม็กซิโก

>> สื่อนอกพร้อมใจเปิดภาพเวทนา ผู้อพยพพ่อ-ลูกจมแม่น้ำ สิ้นใจคาชายแดนเม็กซิโก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook