หนุ่มคู่กรณีดราม่า "เจ็บขาในโรงหนัง" ชี้แจงอีกมุม ลั่นขอโทษเพราะโทสะ

หนุ่มคู่กรณีดราม่า "เจ็บขาในโรงหนัง" ชี้แจงอีกมุม ลั่นขอโทษเพราะโทสะ

หนุ่มคู่กรณีดราม่า "เจ็บขาในโรงหนัง" ชี้แจงอีกมุม ลั่นขอโทษเพราะโทสะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มฝ่ายคู่กรณีดราม่าฉาวโซเชียลฯ ประเด็น "เจ็บขาในโรงหนัง" ทำให้ไม่ได้ยืนทำความเคารพฯ โพสต์ชี้แจงอีกมุม พร้อมขอโทษอีกฝ่าย เป็นเพราะโทสะ-อารมณ์ชั่ววูบ

จากกรณีที่โซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่ง หลังจากที่หญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์ชี้แจงสาเหตุที่ไม่ลุกขึ้นยืนตามเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนที่ภาพยนตร์จะฉาย เพราะบาดเจ็บที่ขา เนื่องจากอาการเป็นฝี ทำให้ลุกขึ้นยืนนิ่งๆ ได้ไม่ค่อยสะดวก แต่ปรากฏว่าภายหลังอีกฝ่ายมาเห็นว่าเธอยังเดินได้อยู่ จึงกลายเป็นประเด็นบานปลายใหญ่โต ถึงขั้นกระชากพาไปโรงพักและแจ้งจับ ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุดในวันนี้ (12 พ.ค.) ปรากฏว่ามีกระทู้ที่ถูกตั้งขึ้นบนเว็บไซต์ พันทิปดอทคอม ที่ชื่อว่า "ชี้แจงประเด็นที่เป็นข่าว ไม่ลุกยืนแสดงความเคารพและโดนแจ้งตำรวจครับ" โดย สมาชิกหมายเลข 821061 ซึ่งเจ้าของกระทู้ดังกล่าวแสดงตัวว่าเป็นคู่กรณีในประเด็นดังกล่าว และได้ทำการโพสต์ชี้แจงในมุมมองของตัวเองให้สังคมได้ทราบ โดยระบุว่า...

"ผมกับเพื่อนไปดูหนังรอบเวลา 20.30 น. พอเข้าไปในโรงก็เห็นว่ามีคนนั่งอยู่แถวข้างหน้า 3 คน คือ ผู้หญิง ผู้ชาย และผู้หญิงที่เจ็บขา ทั้งสามคนเหมือนจะรู้จักกัน กระทั่งถึงตอนฉายเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนที่หนังจะเริ่มฉาย ทุกคนในโรงก็ลุกขึ้นตามปกติ

ผมนั่งแถว C ส่วนคุณผู้หญิงที่เจ็บขากับพี่ชายและเพื่อนอีกคน นั่งอยู่แถว D มีเพียงผู้ชายที่นั่งตรงกลางลุกขึ้นยืนเพียงท่านเดียวครับ (จากประเด็นที่เป็นข่าว คุณผู้หญิงคนนั้นแจ้งแค่ว่ามาดูหนังกับพี่ชาย 2 คน ไม่ได้แจ้งว่ามา 3 คน ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร) ผู้หญิงทั้งสองคนนั่งห่มผ้าที่เตรียมมาอย่างดี ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงดลใจตัวเองให้โน้มตัวลงไปถามเป็นคนไทยหรือเปล่าครับ (พูดน้ำเสียงปกติที่ผมพูดครับ ไม่ได้มีการกระแทกกระทั้นอะไรเลย)

>> ดราม่าสนั่นโรงหนัง สาวโพสต์ "เจ็บขาเป็นเหตุ" ปะทะคารมเพราะลุกยืนไม่ได้

"คะ เจ็บขาคะ" แล้วผมก็พูดต่อ "รู้ไหมครับ ว่ามีคนเคยโดนฟ้องนะ โดนแจ้งความนะ" อีกฝ่ายก็ตอบ "อ๋อค่ะ มีเหตุผลค่ะ"
ผมฟังจบก็ตอบแค่ "ครับๆ" แล้วก็กลับมายืนต่อ หลังจากนั้นผมก็นั่งลง และก็ดูหนังตามปกติ ไม่ได้ไปใส่ใจอะไรกับเรื่องนั้นแล้ว เพราะถือว่าผมบอกแล้ว เขาไม่ทำมันก็สิทธิ์ของเขาครับ

พอหนังจบ มองไปข้างหน้า ใจมันก็กลับมาคิดนะ ว่าที่บอกว่ายืนไม่ได้เพราะเจ็บขา เขาจะเดินได้ไหม แต่อีกใจก็คิดว่าเพลงจบไปนานแล้ว ไปบอกเขาหรือหาเรื่องเขาจะได้อะไร เราจะมาดูหนังพร้อมเขาอีกสักกี่ครั้งเชียว ผมก็เลยลุกก่อนที่เขาจะลุก และเดินออกจากโรงไป

เพื่อนผมขอเข้าห้องน้ำ ผมก็ตามเข้าไป ระหว่างเดินออกมา ผมเดินสวนกับผู้หญิงคนที่เจ็บขา ผมเดินถึงหน้าทางออกของทางเข้าห้องน้ำแล้ว เธอเดินถึงตรงทางเลี้ยวที่จะเข้าห้องน้ำ เธอหันกลับมาและตะโกนถามว่า "พี่ใช่คนที่ถามในโรงหรือเปล่าคะ" ผมหันหน้าไป "ครับ"

เธอชี้ให้ดูแผลที่ขา "นี่คะ แผลหนู" ผมก็มองดูแล้วบอกว่า "ไหนบอกว่ายืนไม่ได้ ทำไมเดินได้" ผมก็ตอบกวนๆไปตามประสาผมครับ จากนั้นเธอก็เดินมาหาผมเลยครับ แล้วพูดว่า "ฉันจะต้องลุกขึ้นมายืนให้ตัวเองทรมานทำไม" เพราะคำนี้แหละครับ ผมเลยเกิดโทสะเลยครับ

ผมพูดว่า "อย่างนี้ผมสามารถแจ้งความจับได้เลยนะ" (ผมเคยฟังข่าวนี้มานานแล้วเหมือนกันครับ ว่ามีคนเคยโดนแจ้งความจับ เพราะไม่ยืนแสดงความเคารพฯ) แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะไปแจ้งอะไรนะครับ เรื่องไม่เป็นเรื่องครับ ผมจบเรื่องนี้ตั้งแต่ในโรงหนังไปแล้ว ไม่รู้ทำไมต้องมาทักผม ทั้งๆ ที่เดินผ่านกันไปแล้วด้วยก็ไม่รู้ครับ

แล้วผมมีหลุดพูดด้วยอารมณ์ไปด้วยครับ "ยืนแค่นี้มันจะตายหรอ ขนาดเดินยังเดินได้เลย" (ขอโทษด้วยแล้วกันครับ คุมอารมณ์ไม่อยู่ พูดไปไม่คิด) จากนั้นเธอก็พูดว่า "แจ้งเลยค่ะๆๆ" พูดซ้ำๆ ตลอดเวลา

ผมเลยจับมือเธอแล้วพูดว่า "ไปครับ เราไปแจ้งความกัน" เธอก็ไม่ไปและพยายามขัดขืนและดึงมือออก ระหว่างนั้นเธอก็พูดตลอดว่า แจ้งความเลยๆ ท้าผมให้แจ้งความ ผมก็พยายามที่จะจับมือเธออีกครั้ง แต่เธอก็ฝืนและบอกว่า "พี่คุกคามหนูนะ" จบคำพูดผมก็ปล่อย และบอกเธอว่า "ผมไปคุกคามคุณตรงไหน คุณอยากให้ผมแจ้งความ ผมก็จะพาคุณไปแจ้งความด้วยกันที่โรงพักไง"

และผมก็ขอบัตรประชาชนเธอ เพื่อที่จะเอาไปแจ้งความตามที่เธอขอ แต่เธอก็ไม่ให้ ระหว่างนั้นผมก็พูดประมาณว่า เป็นคนไทยเสียเปล่า ยืนนาทีเดียวยังทำไมได้เลย เราสองคนเถียงกันไปเถียงกันมา เธอก็ยังคงพูดให้แจ้งความเป็นระยะๆ จนผมต้องโทรหา 191 เพื่อแจ้งความตามที่เธอท้า

"สวัสดีครับ ผมขอแจ้งความครับ พอดีผมมาดูหนัง ตอนเพลงสรรเสริญขึ้น มีคนไม่ยืนแสดงความเคารพครับ" คุณตำรวจปลายสายบอกว่า "เรื่องไร้สาระน่าคุณ..... " คุณตำรวจพูดต่ออีกนิดหน่อย แล้วก็วางสายไปครับ

ระหว่างนั้นคือผมกับเพื่อนและเธอกับพี่ชาย (ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นแฟน) ก็เดินลงบันไดเลื่อนด้วยกัน และเธอก็ถามว่า "แจ้งความแล้วหรือ?" ผมก็ตอบกลับ "ไมได้แจ้ง วางสายไปแล้ว" และผมก็พูดต่อ เป็นคนไทยแค่นี้ทำไมทำไม่ได้

ตอนนั้นเธอคงโมโหผมว่าพูดแต่เรื่องเดิมๆ และเธอก็พูดเป็นประโยคภาษาอังกฤษ ผมจับใจความได้แค่ โปลิสๆ อะไรนี่แหละ ไม่ตั้งตัว ไม่คิดว่าจะพูดภาษาอังกฤษใส่หน้าผม ตอนผมถามว่าเป็นคนไทย ระหว่างเดินไปรถ ผมก็ชี้ไปที่ผู้ชายที่เดินมาด้วย
"แฟนคุณยังยืนเลย ทำไมคุณไม่ยืน" เธอตอบ "ไหนๆ แฟน" หันซ้ายหันขวา "นี่พี่ชายค่ะ" ผมก็ "อ้าวหรือครับ"

แล้วผมก็กวนเธอต่อ "แล้วนี่มีสิทธิ์อะไรมาเรียกผมว่าพี่ หน้าคุณแก่ขนาดนั้น" เธอตอบ "หน้าพี่นี่ 35 ได้แล้วมั้ง ใช่มั้ยค่ะ" ผมก็ "หึหึ" แล้วต่างคนต่างก็ขึ้นรถกลับ

ส่วนเรื่องที่ว่า มาดูกัน 3 คน แต่ตอนหลังเหลือ 2 คน เพราะผู้หญิงที่ไม่ได้ยืนอีกท่านนึง เธอลุกไปตอนกลางๆ เรื่องครับ ตอนลุกไปผมก็เห็นว่าคุยกับผู้ชายแล้วเดินไป ถ้าจำไม่ผิดคือไปแต่ตัว ผมเลยเข้าใจว่าคงไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่ได้รอดูนะครับว่าเข้ากลับมาไหม จนกระทั่งมาสังเกตว่าหายไปคนนึงแล้ว กลับมาถามเพื่อนที่ไปด้วย เพื่อนบอกว่า เธอออกไปตอนกลางเรื่อง

ทั้งนี้ ผมต้องขอโทษครับที่ไปดึงมือคุณ พูดเสียงดังใส่คุณ ว่าคุณว่าปัญญาอ่อน แต่จำไม่ได้ด้ว่าพูดไปช่วงไหน มันเพราะโทสะครับ ผมโมโหเพราะคำพูดคุณ เรื่องทั้งหมดถ้าผมผิด ผมยินดีรับผิดชอบครับ ยอมรับทุกการกระทำ แต่ขอให้เรื่องจบแค่นี้เถอะครับ จะยืนหรือไม่ยืนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ เถียงกันก็มีแต่เสียกับเสีย ไม่มีใครได้ประโยชน์อย่างเรื่องนี้ ทุกคนแต่แสดงออกไม่เหมือนกัน ผมอาจจะไปก้าวล่วงสิทธิ์คุณเอง ผมต้องขอโทษจริงๆ ครับ ต่อไปผมจะระวังให้มากกว่านี้ครับ"

ทั้งนี้ หลังจากกระทู้ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีสมาชิกคนอื่นๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก กระทั่งทางเว็บไซต์ได้เข้ามาจำกัดการแสดงความคิดเห็นเอาไว้ในเวลาต่อมา

ขณะเดียวกัน หญิงสาวคู่กรณีก็ได้เห็นกระทู้ชี้แจงดังกล่าวแล้ว และได้นำไปแชร์ต่อด้วย พร้อมกับได้ชี้แจงในหลายๆ ประเด็นที่อีกฝ่ายกล่าวถึง รวมทั้งเรื่องจำนวนคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่าไปดูหนังกัน 3 คน ผู้หญิงอีกคนคือแฟนพี่ชาย แต่เจ้าตัวปวดท้องและขอกลับไปก่อน ทำให้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย จึงไม่ได้หยิบยกมาพูดถึงด้วยเพียงเท่านั้นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook