''ทำเลทอง'' ตลาดนัด แหล่งช็อปปิ้งคนทำงาน

''ทำเลทอง'' ตลาดนัด แหล่งช็อปปิ้งคนทำงาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หลายคนพยายามหางานเสริมเพิ่มรายได้กันมากขึ้น เพื่อพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยเฉพาะช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของคนทำงาน ซึ่งเป็น ทำเลทองสำหรับคนอยากค้าขาย ขณะเดียวกันก็เป็น นาทีทอง สำหรับสิงห์นักช็อป คงหนีไม่พ้นช่วงเบรกมื้อเที่ยง ที่แต่ละคนจะใช้เวลารับประทานอาหารให้เร็วที่สุด จากนั้นสองเท้ารีบจ้ำอ้าวตรงไปตลาดนัดใต้ตึกออฟฟิศและละแวกใกล้เคียงที่ส่วนใหญ่มักจะเปิดในวันธรรมดาคือวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และสิ่งที่มักได้ยินเสมอๆ จากปากนักช็อปก็คือ บ่ายโมงแล้ว เร็วๆๆ นับว่าเป็นสีสันที่เราเก็บเกี่ยวมาในช่วงเศรษฐกิจขาลงที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก

++ตลาดนัดติดดาว

เริ่มจากตลาดนัดติดดาว สินค้าที่พิจารณาแล้วส่วนใหญ่มีคุณภาพดี จะเป็นที่ 1. ตลาดนัดตึกซันทาวเวอร์ ตั้งอยู่ที่หลังแบงก์ทหารไทยสำนักงานใหญ่ เป็นตลาดนัดแหล่งช็อปปิ้งที่อยู่บริเวณทั้งภายในและโดยรอบของอาคาร พื้นที่ช็อปปิ้งคือบริเวณชั้นล่างของตึกทั้ง 2 ตึก (ฝั่ง A และ B) ตั้งเรียงหน้ากระดานมีพื้นที่หน้าร้านประมาณ 4-5 เมตร วางขายสินค้าตลอดแนวเป็นตลาดที่อำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานโดยไม่ต้องออกไปจับจ่ายซื้อของหรือหากินที่ไหนไกลในช่วงพักกลางวันและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าให้สาวออฟฟิศที่มีความสามารถในการรับประทานอาหารได้รวดเร็วได้ช็อปปิ้งกันอย่างเพลิดเพลิน ปัจจุบันมีกว่า 180 แผงมีทั้งเจ้าประจำ และขาจรที่หมุนเวียนกันมาขายวันจันทร์-วันศุกร์ 10.00-14.30 น.

ส่วนของที่มาขายส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับชุดชั้นใน เครื่องนอน ชุดว่ายน้ำ เรื่อยไปจนถึงของกระจุกกระจิกสำหรับเจ้าตัวน้อย นอกจากนั้นยังมีร้านขายของเสริมดวง ทั้งทำด้วยเครื่องแก้ว สามารถนำไปตั้งวางโชว์หรือตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน เพื่อเสริมดวงโชคลาภต่างๆ ซึ่งหน้าร้านก็จะมีกระดานสำหรับตรวจดูได้ว่าเกิดเดือนไหน ควรวางรูปใด เช็กกันได้ทันที ราคาก็ตั้งแต่ 25 บาทขึ้นไป

2. ตลาดหลังการบินไทย อยู่ในซอยวิภาวดี 22 สินค้าที่ดูโดดเด่นกว่าที่อื่นก็จะเป็น เครื่องประดับ สร้อย แหวน กำไล กิ๊บ เพราะที่นี่นอกจากเครื่องประดับที่ทำแฮนด์เมดแล้ว ยังมีประเภทของที่หอบหิ้ว ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเอง โดยแอร์สาวจากตึกใกล้เคียง เพราะ พ่อค้า แม่ค้าต่างบอกว่าสินค้าพวกนี้จะราคาถูกกว่าที่อื่น

3. เต็นท์ศาลาแดง อยู่ในซอยศาลาแดง 1 ซอยใกล้กับโรงแรมดุสิตธานี เป็นตลาดนัดที่ถือว่าไม่ใหญ่มากแต่ผู้คนที่อยู่ในละแวกสีลม และย่านพระราม 4 นิยมมาจับจ่ายในช่วงกลางวัน ภายในจะเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่โปร่งแต่จะดูคับแคบสักเล็กน้อย อากาศร้อนแต่ก็ไม่เป็นที่ลำบากเกินไปสำหรับขาช็อปอยู่แล้ว โดยมีเนื้อที่แบ่งเป็นร้านมีทั้งแบบแผงลอยที่ประจำและไม่ประจำต่างหมุนเวียนกันมาทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ส่วนใหญ่จะมีทั้งเสื้อผ้าเพราะแถวนี้รู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นแหล่งที่รวบรวมคนทำงานอยู่มากมายหลายตึกทั้งเสื้อผ้าสาวทำงาน เครื่องนอน หรือจะเอาใจคุณหนุ่มๆ บ้างก็จะเป็นแผงเพลงแผ่นขนาดใหญ่ที่วางยาวอยูกลางเต็นท์ แต่ก็ไม่พลาดสำหรับของที่เอาใจคุณสาวๆ และคุณหนูๆ เช่นร้านชมพูพิงค์ที่ขายแต่ Hello Kitty โดยเฉพาะ

++ตลาดนัดย่านวิภาวดี

หลังจากนั้นมาต่อย่านวิภาวดี ที่คนส่วนใหญ่รู้จักและคุ้นเคยกันดี จะเป็น 4. ตลาดนัดหลังปตท.สำหนักงานใหญ่ ซึ่งมีทั้งอาหารเพียบ รับประทานเสร็จก็เดินย่อย ซื้อของนิดหน่อยก็มีทั้งเสื้อผ้าแบบหนุ่มสาวออฟฟิศ ราคาย่อมเยา บ้างก็มาจากโรงงาน ปะปนกับของมือสอง นอกจากนั้นก็ยังมีสินค้าอุปโภค บริโภค เหมาะสำหรับคุณแม่บ้าน นอกจากนั้นยังมีเสื้อผ้า และของเล่นสำหรับคุณหนูมีให้เลือกหลากหลาย เรียกว่าคุณแม่คุณพ่อเห็นแล้วอาจจะอดใจไว้ไม่อยู่ต้องซื้อไปฝาก ซึ่งตลาดนัดที่นี่เหมาะสำหรับคนมีครอบครัว

5. ตลาดนัดตึกชินวัตร 3 อยู่เยื้องปตท.สำนักงานใหญ่ ซึ่งตลาดนี้จะเด่นชัดคนทำงาน ซึ่งมีทั้งเครื่องประดับ เสื้อผ้า นาฬิกา และอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งของรับประทานเล่น ผลไม้ สินค้าโอท็อป เรียกว่าเดินกันเพลิน ซึ่งระยะทางก็ประมาณร่วม 100 เมตร สามารถเรียกเหงื่อได้ชนิดแทบเป็นลม แต่คนขาช็อปไม่หวั่น ขอให้ของราคาถูกเป็นพอ นับว่าตลาดนี้สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงานประมาณ 30 ต้นๆ ดังนั้นใครอยากอินเทรนด์ลองไปอัพเดตที่ตลาดนี้ได้

ปิดท้ายที่ มิดไนต์จตุจักร ซึ่งทางกทม. เปิดให้ขายเป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ณ บริเวณลานจอดรถหน้ากองอำนวยการตลาดนัดจตุจักร กำหนดให้วางแผงค้าจำนวน 447 แผง แบ่งเป็นพื้นที่หน้ากองอำนวยการ 261 แผง และบริเวณลานอเนกประสงค์ 186 แผง โดยจะแบ่งพื้นที่บางส่วน 17 แผง ให้ผู้พิการได้มีโอกาสทำอาชีพด้วย ซึ่งมี ขนาด 2x2 เมตร หรือ 4 ตารางเมตร โดยไม่จำกัดประเภทสินค้า เริ่มเปิดบริการตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. และจะมีการจับสลากผู้ค้าที่เข้าจองแผงทุก 1 เดือน เพื่อให้มีการวนผู้ค้ารายใหม่ที่มีความประสงค์จะค้าขายในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีให้ได้มีโอกาสหารายได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ผู้ค้ารายเดิมที่ได้สิทธิไปวนมาขายซ้ำ ทางกทม. จะตรวจสอบรายชื่อผู้ที่มาลงทะเบียนไว้กับกองอำนวยการ และจะมีการประเมินผลการเปิดขายพื้นที่แผงค้าแห่งนี้ในรอบ 3 เดือนด้วยว่าจะเปลี่ยนรูปแบบหรือไม่ โดยผู้ได้สิทธิจ่ายเพียงค่าทำความสะอาด 100 บาทเท่านั้น และจะพิจารณาเพิ่มเวลาขายเป็น 2 เดือนเพราะเดิมที่กำหนดจับสลากทุก 1 เดือนนั้นสั้นไป ผู้ค้าอาจยังไม่คุ้มทุน นอกจากนั้นทางกทม.คาดว่าจะเปิดตลาดขายของถูก 54 ชั่วโมงที่สนามหลวง ประมาณเดือนเมษายนนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook