จนท.นำเคลื่อนค้นพระธรรมกาย-พระตั้งแถวขวางให้ถอย

จนท.นำเคลื่อนค้นพระธรรมกาย-พระตั้งแถวขวางให้ถอย

จนท.นำเคลื่อนค้นพระธรรมกาย-พระตั้งแถวขวางให้ถอย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าหน้าที่ทหารเคลื่อนค้นพระธรรมกายหน้าประตู 1 พระและคณะศิษย์ตั้งแถวขวางให้ถอยพ้นพื้นที่ พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิก ม.44

บรรยากาศที่บริเวณประตู 1 วัดพระธรรมกาย ช่วงทางเข้าอาคารบุญรักษา (ฝั่งหน้าโบสถ์) ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 50 นาย เข้าไปรื้อประตู เพื่อจะเข้าไปตรวจค้น ทำให้พระสงฆ์ และคณะกลุ่มลูกศิษย์ ได้ตั้งแถวขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารไว้ และเป็นการตั้งแถวเผชิญหน้ากันแบบหน้ากระดาน ฝั่งของพระสงฆ์และศิษยานุศิษย์ ได้เดินหน้า พร้อมกับสวดมนต์ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทหารออกจากพื้นที่ รวมถึงเรียกร้องให้ยกเลิก ม.44 ที่ให้วัดพระธรรมกาย เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ขณะที่ฝั่งทหารก็ถอยร่นทีละก้าว ออกมาเรื่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ เมื่อออกมาถึงบริเวณทางเข้า เจ้าหน้าที่จึงนำรั้วลวดหนามมาขวางไว้ สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น

พร้อมกันนี้ บรรยากาศที่บริเวณกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ได้มี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้ามาร่วมประชุมประเมินสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้มีการเชิญพระสงฆ์ 6 รูป มาพูดคุยที่ ตชด.ภาค 1 ด้วย

 

ทหารถอนกำลังออกจาประตู1วัดพระธรรมกายแล้ว

ความเคลื่อนไหวที่บริเวณประตูทางเข้าอาคารบุญรักษา ของวัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ทหารได้นำกำลังกว่า 50 นาย บุกเข้าไปในพื้นที่ เพื่อทำการตรวจค้น แต่พบกับกลุ่มมวลชน คณะพระสงฆ์ และลูกศิษย์วัดพระธรรมกายกว่า 500 คน ตั้งแถวเผชิญหน้าเจ้าหน้าที่ทหาร และเดินหน้าประชิดผลักดันเพื่อให้เจ้าหน้าที่ ออกจากพื้นที่วัด โดยมีการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ถอยกำลังเข้ามาประชิดประตูรั้ว และนำแผงรั้วลวดหนามและรั้วเหล็กมากันในพื้นที่ แต่คณะลูกศิษย์ยังไม่ยินยอม โดยการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ให้เจ้าหน้าที่ ถอนกำลังพร้อมรื้อรั้วลวดหนามออกไป และมีการลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อกดดัน เจ้าหน้าที่ทหารจึงถอนกำลังและรื้อถอนรั้วลวดหนามออกไปจากพื้นที่วัด ขึ้นรถออกไปนอกพื้นที่

จากนั้น ทางพระสงฆ์และลูกศิษย์ จึงได้ช่วยกันนำแผงสังกะสีมากั้นทางเข้าออกอาคารบุญรักษา และช่วยกันเข็นท่อปูนซีเมนต์มากั้นตลอดแนวทางเข้า และขึงสแลนรอบพื้นที่ไม่ให้มองเห็นเข้าไปด้านในรวมถึงกางเต็นท์จำนวน 2 เต็นท์ ในพื้นที่

 

ตร.เสริมกำลังตชด.3กองร้อยหน้าประตู7

พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้นำกำลังตำรวจตระเวนชายแดน จากจังหวัดสระแก้ว และสมุทรสาคร จำนวน 3 กองร้อย มาเสริมกำลำลังที่บริเวณประตู 7 หน้าวัดพระธรรมกาย ตามการร้องขอของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อกระจายกำลังดูแลความเรียบร้อย และรับคำสั่งปิบัติการจาก ดีเอสไอ โดยเมื่อช่วงเช้านั้น ดีเอสไอ ได้มีการประชุม เพื่อประเมินสถานการณ์และวางแผนการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1

 

รองผบช.ภ.1ตรวจความเรียบร้อยกำลังตำรวจหน้าประตู7

บรรยากาศความเคลื่อนไหวที่บริเวณประตูที่ 7 วัดพระธรรมกาย พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ได้เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยและรวบรวมกำลังพล พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้เดินทางเพื่อนำกำลังตำรวจเข้ามาเสริมเพิ่มเติมอีก 3 กองร้อย ซึ่งเป็นกองกำลังตำรวจตระเวนชายแดนจากจังหวัดสมุทรปราการ จันทบุรี และสระแก้ว จำนวนกว่า 400 นาย ตามคำร้องขอจากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และจะกระจายกำลังไว้เพื่อดูแลความเรียบร้อย โดยคาดว่าจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับการวางแผนกับทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับทราบแผนปฏิบัติการเข้าค้นวัดพระธรรมกาย หลังจากเมื่อเช้าที่ผ่านมาได้มีการประชุมที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1


จนท.ขอคืนพื้นที่ตลาดคลองหลวงตัวแทนสงฆ์ปักหลัก

นายศิริชัย ไตรสารศรี นายอำเภอคลองหลวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าประชาสัมพันธ์ บริเวณตลาดกลางคลองหลวง ตรงข้ามประตู 5 และ 6 วัดพระธรรมกาย เพื่อให้คณะพระสงฆ์ และลูกศิษย์กว่าพันคน ที่ไม่สามารถเข้าไปในวัดพระธรรมกาย และปักหลักสวดมนต์อยู่ในพื้นที่มาหลายวัน ให้ออกไปจากพื้นที่หลังเจ้าของตลาดเข้าแจ้งความเมื่อวานที่ผ่านมาว่าไม่อนุญาตให้ชุมนุมในบริเวณดังกล่าว

โดย ตำรวจได้นำรถควบคุมผู้ต้องหา ติดตั้งเครื่องขยายเสียงพยายามขับเข้ามาด้านในของตลาดกลางคลองหลวง เพื่อประชาสัมพันธ์โดยประกาศขอคืนพื้นที่และหากมวลชนไม่ยอมออกจากพื้นที่อาจเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุกพื้นที่ พร้อมชี้แจงความผิดตามประกาศมาตรา 44 แต่พระสงฆ์และลูกศิษย์ได้มาตั้งแถวกั้นรถไว้ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านใน ซึ่งตัวแทนพระสงฆ์ ได้ประกาศแสดงจุดยืนว่าจะไม่ยอมเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เด็ดขาดจนกว่าจะยกเลิกมาตรา 44 และสถานที่เดียวที่จะย้ายไปคือด้านวัดพระธรรมกาย และหากเจ้าหน้าที่มีการกดดันหรือบุกเข้าไปในวัด ก็อาจทำให้มวลชนที่อยู่บริเวณนี้ตกใจและบุกเข้าไปในวัดพระธรรมกายเช่นกัน 



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook