เด็กป่วยเป็นโรคประหลาดปวดท้องนาน 2 ปี ขอเจอพ่อสักครั้งก่อนตาย

เด็กป่วยเป็นโรคประหลาดปวดท้องนาน 2 ปี ขอเจอพ่อสักครั้งก่อนตาย

เด็กป่วยเป็นโรคประหลาดปวดท้องนาน 2 ปี ขอเจอพ่อสักครั้งก่อนตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำนักข่าวประเทศจีน (8 ส.ค.)  รายงานว่า หมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน มีเด็กหญิงวัย 12 ขวบ ป่วยเป็นโรคประหลาดปวดท้องมาเป็นเวลา 2 ปี หมอวินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นโรคประหลาดและมีโอกาสเสียชีวิตสูง ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา เธอรู้ตัวดีว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน จึงอยากจะพบหน้าพ่อที่ตอนนี้กำลังต้องโทษจำคุกสักครั้ง

พ่อของเธอได้รับอนุญาตให้กลับไปเยี่ยมลูกสาวที่บ้านได้ บ้านของเธอห่างไกลจากตัวเมืองมาก เป็นหมู่บ้านช่างตีเหล็กที่ตั้งอยู่บนสันเขา คนวัยหนุ่มสาวจะออกไปทำงานในต่างถิ่น ส่วนเด็กและคนแก่ก็อยู่ดูแลบ้าน
เธอนอนอยู่บนเตียงอดทนต่อสู้กับอาการป่วยอยู่เงียบๆ ในห้องที่มืดสลัว ท้องเธอมีอาการบวมโต อาหารการกินก็เป็นปัญหา เพราะครอบครัวไม่ค่อยมีรายได้ จึงทำได้แค่เผชิญกับปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้

เพราะเธอป่วยจึงได้เรียนแค่ชั้นประถม ทุกวันเธอต้องเดินข้ามเขาเพื่อไปโรงเรียน หลายครั้งที่ต้องหยุดเดินกลางทางเพราะอาการป่วย

เธอเล่าว่า บางครั้งที่เธออยู่โรงเรียนเธอไม่กล้าบอกครูเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ เพราะกลัวว่าครูจะให้เธอหยุดเรียนแล้วให้กลับบ้าน เธออยากเขียนจดหมายให้แม่สักฉบับ

อาการป่วยของเธอนับวันยิ่งหนักขึ้น คนในครอบครัวจึงได้หยิบยืมเงินพาเธอไปหาหมอในโรงพยาบาลใหญ่ๆ

ในที่สุดหมอก็วินิจฉัยว่าเธอป่วยติดเชื้อไวรัส EB ชนิดT ทำให้เกิดความผิดปกติของต่อมน้ำเหลืองขึ้น หมออธิบายว่าโรคนี้ยังเป็นปัญหาของโรงพยาบาลทั่วโลก มีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก ขณะนี้ยังไม่มีวิธีรักษา ซึ่งตลอด 2 เดือนก่อนหน้านี้เธอมีอาการรุนแรงขึ้นจึงได้หยุดเรียนและพักผ่อนอยู่บ้าน

3 ปีแล้วที่เธอไม่ได้พบหน้าพ่อ เธอมักจะถามแม่ตลอด แต่แม่ไม่เคยบอกความจริงกับเธอว่าพ่อนั้นต้องโทษในเรือนจำ

แต่หลังจากนั้นเธอก็รู้ว่าพ่อของเธอต้องโทษจำคุกเพราะทำผิดกฎหมาย นับวันอาการของเธอก็ยิ่งรุนแรงขึ้น พูดว่าอยากพบพ่ออีกสักครั้งบ่อยๆ

หลังผู้เป็นพ่อรู้ข่าวขออนุญาตกลับบ้านไปเยี่ยมลูกสาว ซึ่งเขาร้องไห้ออกอย่างอดกลั้นไว้ไม่อยู่ เขาเตรียมเค้กวันเกิดให้ลูก ที่ให้เค้กเพราะว่าในวันเกิดนั้นเขาต้องกลับไปอยู่ในคุก 

รายงานบอกว่าเด็กหญิงคนนี้ขอมีความสุขก่อนตายขอเจอหน้าพ่ออีกครั้ง

source : news.sina

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook