1 ในผู้รอดชีวิตเล่านาทีหนีตาย ตึกSCBสารไพโรเจนรั่วไหล

1 ในผู้รอดชีวิตเล่านาทีหนีตาย ตึกSCBสารไพโรเจนรั่วไหล

1 ในผู้รอดชีวิตเล่านาทีหนีตาย ตึกSCBสารไพโรเจนรั่วไหล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรณีระบบดับเพลิงขัดข้องภายในชั้นใต้ดิน อาคารเอสซีบีปาร์ค ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก แขวงจตุจักร เขตจตุจักร ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บ 7 ราย ที่สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (14 มี.ค.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมายัง สน.พหลโยธิน เพื่อประชุมความคืบหน้ากรณีดังกล่าว พร้อม เปิดเผยว่า เบื้องต้น ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วทั้งหมด 2 คน ในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย

โดยในช่วงเช้าวันนี้ (15 มี.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกหลายราย ในส่วนของการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญพยานมาสอบปากคำ แล้วกว่า 10 ปาก ทั้งหมด ให้การสอดคล้องกันและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี

สำหรับสาเหตุเบื้องต้นพอทราบแล้ว แต่คงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ทั้งนี้ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เชื่อว่าในช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมผู้ที่ถูกออกหมายจับมาทำการสอบสวนได้

ด้าน รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 เปิดเผยว่า นายสมจิตร สัมโย อายุ 28 ปี 1 ในผู้รอดชีวิตจากเหตุดังกล่าว เปิดเผยว่า ได้เข้าไปทำงานที่ชั้น B2 ของตึก SCB Park ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ โดยมีญาติบ้านเดียวกันเป็นคนรับเหมางาน ด้วยชักชวนญาติๆ มาด้วยกัน 9 คน ลงไปประกอบท่อน้ำดับเพลิง ไม่มีการเจาะหรือการเชื่อม มีคนงานของผู้รับเหมาอีกชุดหนึ่งลงไปประกอบท่อน้ำดับเพลิงด้วยเช่นกัน รวมแล้วมีคนอยู่มากกว่า 10 คน

ขณะที่เกิดเหตุ นายสมจิตร ระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดอยู่บนศีรษะของตนเอง ซึ่งเป็นถังบรรจุสารเคมี มีควันลอยฟุ้งออกมาเต็มทางเดินมืดไปทั้งชั้น ไฟก็ดับและได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง จึงคิดว่าน่าจะมีหลายถังที่ระเบิด เพราะมีสารเคมีติดตั้งอยู่หลายตัว

นายสมจิตร กล่าวต่อว่า จำได้ว่ามีทางออกอยู่ทางเดียว เพราะเป็นคนขนอุปกรณ์ใส่รถเข็นมา และรถเข็นได้จอดไว้ที่ประตูทางออก จึงพยายามคลำหาทางออกไปเรื่อยๆ ประมาณ 30 เมตร มือไปสัมผัสกับรถเข็น จึงเป็นสัญญาณว่าถึงทางออกแล้ว ใช้เวลาหนีประมาณ 1-2 นาที

เมื่อเปิดประตูออกมาก็พบว่ามีควันลอยทั่วทางออก ก่อนตั้งสติวิ่งเข้าไปใหม่ ช่วยพี่สาวที่ร้องให้ช่วย และพี่เขยออกมาได้ ก่อนหมดแรงที่ประตูทางออก และได้ยินเสียงคนเข้ามาช่วย โดยคุณสมจิตรรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยชีวิตหลานสาว คือ นางวิไล ขันทอง อายุ 24 ปี และ นายเพชร มหาสนิท แฟนหนุ่มของหลานสาว ออกมาด้วยได้ ทั้ง 2 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ยอมรับว่า การเสียชีวิตของ 8 คนงานที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่มีผู้เสียชีวิตจากสารไพโรเจน ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถทำหน้าที่ดับเพลิง ที่จะทำให้ก๊าซออกซิเจนในอากาศหมดไป

โดยผลการตรวจชันสูตรศพ เบื้องต้น ทั้ง 8 ราย พบว่ามีสาเหตุเดียวกัน คือสมองขาดออกซิเจน ซึ่งจะเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ ส่งไปตรวจยังห้องปฏิบัติการหารายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากไม่เคยพบผู้เสียชีวิตจากสารนี้มาก่อน

ขณะที่สมองพบว่ามีการเปลี่ยนสี ซึ่งแตกต่างจากผู้เสียชีวิตปกติที่สมองจะมีสีซีด แต่กรณีนี้ผู้เสียชีวิตมีสมองสีชมพูสดมากกว่าปกติ ซึ่งจะต้องส่งไปตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดกว่าสารเคมีชนิดดังกล่าว มีปฏิกิริยาต่อสมองอย่างไร

อย่างไรก็ตาม สำหรับสารไพโรเจนหากสูดดมเกิน 15 นาที จะทำให้หมดสติและเป็นอันตรายถึงชีวิต ในลักษณะค่อยๆ หมดสติจนไม่รู้สึกตัว

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook