แพทยสภาเผยผลสอบการตาย ‘ชูวงษ์' กระดูกคอถูกกระเเทก-พบพิรุธ ไม่มีหลักฐานด้านหลัง

แพทยสภาเผยผลสอบการตาย ‘ชูวงษ์' กระดูกคอถูกกระเเทก-พบพิรุธ ไม่มีหลักฐานด้านหลัง

แพทยสภาเผยผลสอบการตาย ‘ชูวงษ์' กระดูกคอถูกกระเเทก-พบพิรุธ ไม่มีหลักฐานด้านหลัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่แพทยสภา นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่เสียชีวิตหลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ พร้อมด้วยนายอเนก คำชุ่ม ทนายความ เดินทางเข้าพบ ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีการขอให้แพทยสภาตรวจสอบผลรายงานการชันสูตรของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ

โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากทางญาตินายชูวงษ์ ได้ทำเรื่องร้องมายังแพทยสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบผลรายงานการชันสูตรของสถาบันนิติเวชนั้น ทางแพทยสภาได้ส่งรายงานดังกล่าวไปยังราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย และได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญนิติวิทยาศาสตร์มาร่วมพิจารณาด้วย

โดยการพิจารณานั้นตรวจสอบจากรายงานผลการชันสูตรที่ผ่านมาเท่านั้น ร่วมกับภาพถ่ายผู้เสียชีวิตเพียง 2 ภาพ คือ ภาพด้านหน้าส่วนบนและส่วนล่าง แต่ไม่มีภาพด้านข้างหรือด้านหลังเลย

"จากผลรายงานการชันสูตรฯ ที่ทางญาติผู้เสียชีวิตมีข้อสงสัยมีประมาณ 7 ข้อ อาทิ หนังตาบนสองข้างมีเลือดออกเยื่อบุตาจนบวมนั้น มาจากเพราะอะไร ซึ่งพบว่าเกิดจากแรงกระแทกของของแข็ง ไม่มีคม ส่วนบาดแผลที่คาง เกิดจากรอยครูดของแข็ง และบริเวณลำคอนั้นพบว่ามีกระดูกหักข้อที่ 6 และข้อที่ 7 ซึ่งพบว่ามาจากแรงกระแทกเช่นกัน

ทั้งนี้ ส่วนแรงกระแทกบริเวณคอจนทำให้กระดูกหักข้อที่ 6 และ 7 นั้น เป็นแรงกระแทกจากของแข็งที่ไม่มีคม ส่วนจะเป็นลักษณะใดไม่สามารถระบุได้ ตรงนี้ต้องไปตรวจสอบร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป" ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าโดยปกติหากถูกแรงกระแทกบริเวณคอ จะส่งผลให้กระดูกข้อที่ 6 และ 7 หักหรือไม่ ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า การเกิดอุบัติเหตุโดยปกติมักจะส่งผลกระทบต่อกระดูกคอข้อที่ 2 และข้อที่ 3 มากกว่า แต่หากจะกระทบไปถึงกระดูกคอข้อที่ 6 และ 7 จะเป็นลักษณะร่วมด้วยกันทั้งหมด ซึ่งอาจเกิดจากแรงเหวี่ยง หรือเกิดจากการกระแทกที่มาจากไหล่ร่วมก็เป็นได้ แต่ทั้งหมดก็ไม่สามารถฟันธงว่าเป็นเพราะอะไร

ซึ่งต้องให้ทางญาตินำรายงานดังกล่าว ไปพิจารณาร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป ส่วนของแพทยสภานั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการจบแล้ว ยกเว้นหากญาติต้องการร้องเรียนต่อในเรื่องการถ่ายภาพผู้เสียชีวิต เพื่อเก็บเป็นหลักฐานของทางนิติเวช ซึ่งมีจำนวนน้อยเกินไป ก็สามารถร้องมายังแพทยสภา เพื่อนำเข้าสู่คณะกรรมการจริยธรรมเพื่อพิจารณาว่าทางพยาธิแพทย์ที่ทำการเก็บหลักฐานภาพถ่ายได้ดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

น.ส.วันเพ็ญ กล่าวว่า จากการรวบรวมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทำให้ครอบครัวค่อนข้างมั่นใจว่าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่ไม่สามารถเปิดรายละเอียดได้ทั้งหมด โดยจะนำข้อมูลที่ได้ส่งต่อไปกองบังคับการปราบปราม ภายในสัปดาห์นี้

เบื้องต้น ยืนยันว่าจากการตรวจสอบภายในรถยนต์ คันที่นายชูวงษ์นั่งไปประสบอุบัติเหตุนั้นไม่พบวัตถุของแข็งใดๆ บนรถ และยืนยันว่ารถรุ่นดังกล่าวมีความปลอดภัยสูง

ด้าน นายเอนก กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีใครทราบว่าระหว่างเกิดเหตุนั้นใช้ความเร็วเท่าไหร่ เพราะคนขับก็บอกว่าขับ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบ้าง ความเร็วอื่นๆ บ้าง แต่จากการจำลองสถานการณ์ก็มีการทดลองใช้ความเร็วในหลายระดับ ทั้ง 30, 50, 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตรงนี้ผู้เชี่ยวชาญจะตอบได้ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook