จับอดีตผช.ผญบ.งัดแงะ-อ้างหาเงินใช้หนี้นอกระบบ

จับอดีตผช.ผญบ.งัดแงะ-อ้างหาเงินใช้หนี้นอกระบบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 31 มกราคม พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผบก.ภ.จว.ลำปาง พร้อมตำรวจ สภ.ห้างฉัตร นำโดยพ.ต.อ.เจตนา คุ้มวงษ์ ผกก.สภ.ห้างฉัตร พ.ต.ท.วีระยุทธ มานพ รองผกก.สส.ฯ และพ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม สว.สส. สภ.ห้างฉัตร ได้นำหมายศาลจังหวัดลำปางเข้าจับกุมตัวนายสุกิจ ทิพย์สุรินทร์ อายุ 53 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 110 ม.11 ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำ แพง จ.เชียงใหม่ ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการประกอบไปด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ กล้องดิจิตอล โทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ พระเลี่ยมทอง ทองรูปพรรณ พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการงัดแงะ เช่น ไขควง ค้อน และเหล็ก ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่ สภ.ห้างฉัตร ลำปาง และมอบต่อให้ พ.ต.ท.จรูญ ถิ่นอ่วน พนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตร สอบสวนและดำเนินคดี ตามกฎหมาย

ทั้งนี้ก่อนจับกุม ในเขตพื้นที่ อ.ห้างฉัตร และ อ.เมือง ลำปาง ได้มีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์หลายแห่ง ทรัพย์สินหายไปจำนวนมาก จนทำให้ชาวบ้านพากันเดือดร้อนไปทั่ว เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบแน่ชัดว่านายสุกิจ ซึ่งเป็นคน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงเข้าจับกุมตัวดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นนายสุกิจ รับสารภาพว่า ตนเคยเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเคยติดคุกคดีเดียวกันมาแล้วหลายปี พอออกจากคุกก็ไม่ได้ทำงานอะไร แค่เปิดร้านขายของชำเล็กๆและภรรยาเปิดร้านซักอบรีดใน อ.สันกำแพง แต่เงินไม่พอใช้ และที่สำคัญ ได้ไปกู้เงินนอกระบบร้อยละ 20 มาใช้จ่าย จนเป็นหนี้เกือบสองแสนกว่าบาท และไม่มีเงินจ่ายหนี

ดังนั้นจึงตัดสินใจ ขับรถกระบะยี่ห้อมิซูบิชิสีขาว ตระเวนลักทรัพย์ไปทั่ว โดยเฉพาะต่างจังหวัด และมักจะก่อเหตุตอนกลางคืนเวลาดึกๆ ส่วนใหญ่จะปีนรั้วหลังบ้าน แล้วใช้อุปกรณ์งัดประตูเข้าไปและเข้ารื้อค้นเอาทรัพย์สินเงินทองของมีค่าต่างๆ เอาไปขายนำเงินไปใช้หนี้ ทุกครั้งขณะที่กำลังก่อเหตุ มักจะใช้ขวดน้ำอัดลม วางไว้ที่บันไดบ้านหรือประตูทางเข้าห้องนอน เพื่อเป็นการเตือนหากเจ้าบ้านออกมาก็จะแตะโดนหรือเตะใส่ขวดล้ม ก็จะทำเกิดเสียงเพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่ามีคนมา และจะได้หลบหนีได้ทัน

นอกจากนี้นายสุกิจ ยังรับสารภาพได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร จำนวน 3 แห่ง คือ ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ 2 แห่งและร้านสังฆภัณฑ์ อีก 1 แห่ง ส่วนในอำเภอเมืองลำปางอีก 1 แห่ง เมื่อได้นำทรัพย์สินของมีค่า ซึ่งจะเน้นเป็นเงินสดและทองรูปพรรรณ ก็นำไปขายที่โรงรับจำนำเพื่อนำเงินไปเลี้ยงชีพ และใช้หนี้ ต่อมาตำรวจ สภ.ห้างฉัตร นำตัวนายสุกิจ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร จากนั้นได้นำตัวไปฝากขังเพื่อ รอดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำ หรับนายสุกิจ ผู้ต้องหาคนดังกล่าว ได้เคยถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาให้จำคุกในข้อหาดังกล่าว เมื่อปี 2540 มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยถูกจำคุก 6 ปี และพ้นโทษออกก็มาก่อเหตุอีก อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจ สภ.ห้างฉัตร เชื่อว่าผู้ต้องหาคน น่าจะก่อเหตุในลักษณะเดียวกันใน จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และลำพูน อีกหลายแห่ง แต่ในเบื้องต้นนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเพียง 4 แห่ง ใน จ.ลำปาง เท่านั้น เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานมัดตัว

พ.ต.อ.มนตรี สันบุณณานนท์ รองผบก.ภ.จว.ลำปาง เปิดเผยว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ให้ออกตรวจตราและปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการก่อเหตุดังกล่าว ขึ้นในพื้นที่ และอยากจะฝากเตือนไปยังเจ้าของโรงรับจำนำหรือสถานที่รับซื้อของเก่า ให้ตรวจสอบการรับซื้อให้ดี ละขอให้ตรวจสอบอย่างละเอียด ให้ทำบัญชีรายชื่อการรับซื้ออย่างถูกต้อง เนื่องจากหากมีการรับซื้อผิดปกติและถือว่าส่อเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ ท่านเองจะกลายเป็นผู้ต้องหาร่วมทันทีในข้อหา รับซื้อของโจร

ตะลุยข่าว - เฟ้นสาวๆ ฝึกปราบจลาจล...รับม็อบเด็ก สตรี คนชรา

กลายเป็นเรื่องฮือฮาในแวดวงสีกากีอีกครั้ง ...หลังจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจเปิดรับนักเรียนนายร้อยหญิงเข้ารับการศึกษาและฝึกอบรม เฉกเช่นเดียวกับนักเรียนนายร้อยที่เป็นชายอกสามศอก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook