สยอง! ผัวฆ่าเมียบูชาเทพเจ้า สวดทำพิธี บีบคอ-ไขควงแทงซ้ำ

สยอง! ผัวฆ่าเมียบูชาเทพเจ้า สวดทำพิธี บีบคอ-ไขควงแทงซ้ำ

สยอง! ผัวฆ่าเมียบูชาเทพเจ้า สวดทำพิธี บีบคอ-ไขควงแทงซ้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผัวโหดฆ่าเมียบูชาเทพเจ้า เผยก่อนฆ่าบอกเพื่อนไว้ก่อน จะฆ่าเมียบูชาเทพเมฆราช พร้อมลงมือทำพิธีสวดบูชา ขณะเมียนอนหลับอยู่ข้างๆ ก่อนบีบคอหมอนกดเมียจนหมดสติ แล้วเอาไขควงแทงซ้ำ จนเสียชีวิตเพื่อส่งดวงวิญญาณ ก่อนนอนอยู่กับศพจนถึงเช้า เพื่อนเผยบอกเมียแล้วให้เก็บอาวุธทั้งหมด แต่ไม่รอดตกเป็นเหยื่อจบชีวิตอย่างน่าสยดสยอง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ต.ค. 2558 พ.ต.อ.ธีรภพ รุมแสง ผกก.สภ.สาขลา อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตายภายในห้องพักของบริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่หมู่ 4 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งเหตุ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาขลา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และแพทย์เวร รพ.พระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ เดินทางไปตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุซึ่งเป็นถนนทางแยกจากถนนประชาอุทิศ 90 เข้าถนนวัดแก้วจันทร์เพชร ประมาณ 1 กม. ซึ่งภายในที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตลูกกลิ้งของบริษัทฯ บริเวณด้านหลังของโรงงานดังกล่าวเป็นอาคารห้องพักสูงสองชั้นปลูกแนวยาวจำนวนรวมกันประมาณ 10 ห้อง ที่เกิดเหตุภายในห้องพักคนงานที่ห้องที่ 1 ชั้นล่างของห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวพบศพผู้ตายทราบชื่อคือ นางปองจิต อายุ 44 ปี สภาพศพนอนหงาย โดยมีผ้าห่มอย่างมิดชิด

ใกล้กันพบว่าที่บริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ และใต้ราวนมซ้ายมีบาดแผลถูกแทงจำนวน 2 แห่ง จนเสียชีวิตมาแล้วกว่า 1 ชั่วโมง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบไขควงขนาดความยาว 5 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม มีคราบโลหิตเปื้อนเลือดตกอยู่ใกล้ศพของผู้ตาย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนที่บริเวณด้านบนหัวนอนผู้ตาย พบมีจานดอกไม้ธูปเทียน และเครื่องวัตถุมงคลของขลัง ใส่ไว้ในจานวางอยู่บนโต๊ะบูชา ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าได้ตรวจสอบสภาพศพ พบว่าบริเวณลำคอมีร่องรอยเขียวช้ำ และใต้ราวนมซ้ายมีรอยถูกแทงรวมสองแผล

สอบสวน นายณัฐวุฒิ อายุ 23 ปี เพื่อนคนงานของผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา พบเห็น นายเจษฎา อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นสามีของผู้ตาย ซึ่งมีอาการป่วยทางจิต และมักชอบแอบอ้างตัวเองว่าเป็นเทพเจ้าเมฆราชอยู่ในชั้นสูง เพื่อมาคอยดูแลโลกมนุษย์ โดยเมื่อคืนวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา จะต้องมีการฆ่าคนส่งดวงวิญญานเพื่อบูชาเทพเมฆราช ซึ่งตอนแรกคิดว่านายเจษฎา คงพูดเล่นๆ จึงไม่ได้ใส่ใจ

จนกระทั่งวันเสาร์ที่ผ่านมา นายเจษฎา ได้มาบอกกับตนว่า ช่วยหาดอกไม้ธูปเทียนให้หน่อยคืนนี้จะทำพิธีส่งดวงวิญญาณ ซึ่งตนเองก็เกรงใจกัน จึงนำดอกไม้ธูปเทียนมาให้

พร้อมกันนั้นพบว่า นายเจษฎา ได้เปลี่ยนชื่อที่ใช้ในการเล่นการเฟซบุ๊กประจำตัวเป็น "เทพเมฆราช" โดยตนเองได้พยายามไปแจ้งให้นางปองจิตผู้ตายให้ระมัดระวังสามี เพราะมีอาการน่ากลัว อาจจะคิดร้ายได้ ให้เอาของมีคมไปซุกซ่อนไว้ให้ดี

ซึ่งนางปองจิต บอกว่าได้เก็บมีดทุกเล่มไว้เป็นอย่างดี คิดว่าสามีคงจะไม่คิดร้ายกับตน จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืน นายเจษฎา ได้เริ่มทำพิธีสวดมนต์เสียงดังอยู่ภายในห้อง ขณะที่นางปองจิตนอนหลับอยู่ข้างๆ แต่ด้วยในช่วงนั้นเวลาดึกมากแล้ว ตนเองจึงขอตัวไปนอน จนตอนเช้า ก่อนมาพบศพผู้ตาย ตนเองเห็นนายเจษฎา มีอาการเหม่อลอย และได้บอกกับตนว่า ลงมือฆ่า นางปองจิต ภรรยา แล้ว เพื่อส่งดวงวิญญาณบูชาเทพเมฆราช

จากนั้นตนและเพื่อนร่วมงานจึงเข้าไปในห้องผู้ตาย ก็พบว่านางปองจิตถูกนายเจษฎาสามีฆ่าตายจริง โดยที่นายเจษฎายังเดินวนเวียนอยู่ภายในโรงงาน และพยายามควบคุมตัว นายเจษฏา ไว้ก่อนมอบตัวให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปทำการสอบปากคำ ซึ่งนายเจษฎายอมรับสารภาพว่า ได้ลงมือฆ่านางปองจิตภรรยาจริง

โดยหลังจากทำพิธีเสร็จ ก็ได้พยายามใช้หมอนมาปิดปาก แล้วบีบคอจนหมดสติ จากนั้นได้เอาไขควงที่ติดตัวมาแทงจนเสียชีวิต เพื่อบูชาเทพเมฆราชตามความประสงค์ หลังจากถูกจับกุม จึงควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไว้สอบสวนดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook