นายกฯชวนร่วมBike ForMomขอปชช.ตัดสินประชามติ

นายกฯชวนร่วมBike ForMomขอปชช.ตัดสินประชามติ

นายกฯชวนร่วมBike ForMomขอปชช.ตัดสินประชามติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ชวนร่วมกิจกรรม “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” แสดงพลังความรู้รักสามัคคีต่อแม่ของแผ่นดิน ยัน คกก.ยุทธศาสตร์ชาติ ลดขัดแย้ง แนะ รอประชามติ - ลุยแก้เศรษฐกิจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า อีก 2 วัน ประชาชนชาวไทยก็จะได้ร่วมใจกันทำกิจกรรม “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็นเสมือน “แม่ของแผ่นดิน” อีกทั้งเป็นการแสดงพลัง  ความรู้รัก สามัคคีของคนไทยทุกคนทั่วประเทศ ร่วมกิจกรรมประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ ที่กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ “กินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ เรคคอร์ด” ได้มีการจัดทำสถิติความร่วมมือร่วมใจของปวงชนชาวไทย ในกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ ประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า คนไทยรัก “แม่ของแผ่นดิน” มาเพียงใด  

นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดขึ้นสำหรับผู้ที่อาจจะไม่ถนัดในเรื่องการปั่นจักรยาน แต่มีใจรักในงานศิลปะภาพถ่าย ให้ได้มามีส่วนร่วมส่งภาพในกิจกรรม “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ที่ถ่ายทอดแนวคิด สื่อความหมาย ภายใต้แนวคิด “ความรัก ความสามัคคี ความกตัญญู ลูกทำเพื่อแม่ และความมุ่งมั่น” เพื่อชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ด้วย ตลอดจนขอทำความเข้าใจและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ในการสนับสนุนกิจกรรมฯ หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทาง ของการปั่นจักรยานในช่วงเวลาดังกล่าว และขอให้ตรวจสอบเส้นทาง และวางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันผลกระทบในชีวิตประจำวันด้วย

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า มีข่าวดีที่น่าภาคภูมิใจ สำหรับคนไทยและประเทศไทย ที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) เตรียมทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล “ความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์” แด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 27 สิงหาคม นี้ ซึ่งนับว่าทรงเป็นเจ้าหญิงพระองค์แรกของโลก ที่ได้ทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลดังกล่าว โดยได้ตระหนักถึงพระปรีชาสามารถ ด้านการสร้างสรรค์ผลงานทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ที่ได้รับการจดข้อมูลด้านลิขสิทธิ์ 354 ผลงาน ซึ่งรวมถึงงานด้านศิลปกรรม ฝีพระหัตถ์, งานพระราชนิพนธ์ กลอน หนังสือ เพลง เป็นต้น

ทั้งนี้ สำหรับ WIPO ได้เคยทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญรางวัล “ผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา” ให้กับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีที่ผ่านมาด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและปรองดอง ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้เสนอไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ น่าจะมีความสำคัญในการที่จะกำหนดแนวทางในการปฏิรูป, ปรองดอง, ขจัดความขัดแย้ง ซึ่งจะต้องมีทั้งอำนาจ หน้าที่ และกลไกที่จะสามารถอำนวยการปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไกในการขจัดความขัดแย้ง ความรุนแรงที่รัฐบาลปกติ กฎหมายปกติอาจจะไม่สามารถแก้ไข ขับเคลื่อนประเทศได้

ส่วนเรื่องการทำประชามติ เป็นอีกประเด็นที่มีความสำคัญเป็นเรื่องของประชาชนทุกคนจะต้องร่วมกันในการตัดสินใจเพื่อประเทศชาติ และอนาคตของลูกหลานที่ปฏิรูปบ้านเมือง ซึ่งแนวทางการปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน ตามรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ สปช. ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว และจะส่งต่อให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูป 200 คน ที่เราจะต้องจัดตั้งขึ้นใหม่ ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับแก้ไข เป็นผู้พิจารณาเพื่อจัดลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วน ว่าจะทำทันที, ปานกลาง หรือระยะยาว ให้มีความเหมาะสม เพื่อจะได้ให้ที่รัฐบาลต่อไป นำไปสู่การปฏิบัติ

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ชี้แจงให้นักลงทุนได้มั่นใจในประเทศไทย เรื่องความพร้อมในการรองรับการลงทุนต่าง ๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเป็นศูนย์กลาง (Hub) ในอาเซียน ด้านการค้าการลงทุนและกิจกรรมเศรษฐกิจ โดยมีนโยบายส่งเสริมการส่งออกแล้วก็จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเชื่อมโยงในประเทศกับภูมิภาค ทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ ทั้งนี้ ต่อไปคือการเตรียมการปรับเปลี่ยนเป็นเศรษฐกิจดิจิตอล โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT Infrastructure) การปรับโครงสร้างและมาตรการทางภาษี เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ มาจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters : IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (International Trading Center : ITC) การส่งเสริมและขยายความร่วมมือภาคเอกชนกับภาครัฐ ในรูปแบบการเป็นหุ้นส่วน (Public-Private Partnership : PPP) ทั้งในด้านการลงทุน การศึกษา วิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ และด้านนวัตกรรม และอีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องของศักยภาพของประเทศ การส่งเสริมการเกษตรและสินค้าการเกษตร การบริการ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ด้านสาธารณสุข อัญมณี ที่เป็นกำลังสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หากได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ก็สามารถผลักดันให้เป็นศูนย์กลางในอาเซียนได้

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงต้องเร่งพัฒนาหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อจะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญในการผลักดันมาตรการและงบประมาณ ในการที่จะนำองค์ความรู้ ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Science based) ไปสู่ภาคการผลิต หรือห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ นอกจากการสร้างคุณค่า, มูลค่าเพิ่ม ในการผลิตสินค้าหรือบริการแล้ว ก็ยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการเจริญเติบโต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุน


ขอบคุณภาพ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook