พม.จ่อเยียวยาแรงงานประมงไทยในอินโดฯ
พม. จับมือ ก.ต่างประเทศ ก.แรงงาน และ สตช. ให้การดูแลและเยียวยาแรงงานประมงไทย ที่ไปทำงานอินโดนีเซีย
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลือแรงงานประมงไทยที่ประสบปัญหาที่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งได้ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. ๒๕๕๗ จนถึงปัจจุบันปรากฏว่า ยังคงมีแรงงานเดินทางกลับจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย อย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงแรงงาน (รง.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งการดำเนินการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยตั้งแต่วันที่ ๑ ต.ค. ๒๕๕๗ - ๓ ส.ค.๒๕๕๘ รวมจำนวน ๙๔๐ ราย จากผลการคัดแยก พบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์ จำนวน ๕๑ ราย ไม่เข้าข่าย จำนวน ๘๗๗ ราย และมีหมายจับคดีอาญา จำนวน ๑๒ ราย
ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น เช่น ค่าเดินทางกลับภูมิลำเนา ค่าอาหารระหว่างเดินทาง และประสานด้านการดำเนินคดี พร้อมทั้งประสานกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ให้ดำเนินการเรื่องการเรียกร้องค่าจ้างค่าแรงที่พึงได้รับอย่างเหมาะสม ในกรณีที่คัดแยกฯ แล้วลูกเรือที่อาจจะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์นั้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ลูกเรือทราบถึงสิทธิในการเข้ารับการคุ้มครองชั่วคราว ตามมาตรา ๒๙ ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ที่ให้ผู้เสียหายอยู่ในความคุ้มครองเป็นการชั่วคราวตามมาตรานี้ ต้องจัดให้บุคคลดังกล่าวอยู่ในสถานที่อันสมควรซึ่งมิใช่ห้องขังหรือสถานคุมขัง ซึ่งอาจเป็นสถานที่คุ้มครองของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ หรือเป็นสถานที่คุ้มครองของเอกชน และเป็นไปตามความสมัครใจของผู้เสียหาย ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯได้ดำเนินการตามมาตราดังกล่าวอย่างเคร่งครัดและคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการส่งลูกเรือทุกรายกลับภูมิลำเนา กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ประสานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แต่ละจังหวัดลงพื้นที่เพื่อติดตามเยี่ยมบ้าน และให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆอย่างต่อเนื่อง