ญาติโวยตร.จับแพะ คดีไอ้หื่นไล่ปล้ำเด็ก 14

ญาติโวยตร.จับแพะ คดีไอ้หื่นไล่ปล้ำเด็ก 14

ญาติโวยตร.จับแพะ คดีไอ้หื่นไล่ปล้ำเด็ก 14
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(แฟ้มภาพ)

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.นครพนม ได้ทำการจับกุม นายไพศาล ชนะพจน์ อายุ 30 ปี ในข้อหากระทำการอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และกระทำผิดต่อเสรีภาพทำร้ายร่างกาย หลังสืบสวนพบว่า นายไพศาล ได้ก่อเหตุบุกปล้ำ เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ขณะช่วยมารดากวาดขยะช่วงเช้ามืด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (12 ก.พ.) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า นายหาญ ชนะพจน์ อายุ 63 ปี และนางจันทร์เพ็ญ หอมมาลี อายุ 60 ปี บิดาและมารดาของนายไพศาล พร้อมเพื่อนบ้านเกือบ 20 คน เดินทางเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม เพื่อขอความเป็นธรรม ให้กับนายไพศาล

เกรงว่ากรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม น่าจะจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุผิดตัว พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดี คนร้ายตัวจริงยังหลบหนีลอยนวล

นายหาญ กล่าวว่า บุตรชายคือ นายไพศาล มีอาชีพรับจ้างส่งน้ำแข็ง เคยได้รับอุบัติเหตุตกต้นไม้ ขาซ้ายจากน่องจนถึงหน้าแข้งใช้ผ้าพันแผลไว้ตลอด วันเกิดเหตุที่คนร้ายวิ่งหนีตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ ไม่น่าจะวิ่งหนีได้เร็วขนาดนั้น เพราะบุตรชายไม่สามารถจะวิ่งได้เลยเพราะเจ็บขา และไม่สามารถใส่รองเท้าผ้าใบได้ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเท้าจนไม่สามารถใส่รองเท้าผ้าใบได้เป็นเวลานานแล้ว

ด้าน นายชาญณรงค์ เทพกรรณ์ อายุ 47 ปี อดีตประธานชุมชนวัดทุ่งประชานารถ กล่าวว่า ตำรวจบอกกับญาติว่าจะยืมตัวไปทำแผนแล้วจะให้กลับบ้าน นายไพศาลซึ่งมีสติไม่ค่อยสมประกอบ ดีใจที่ตัวเองจะได้ออกทีวี ก็คิดว่าไม่มีอะไร

หลังนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลเพื่อฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม นายไพศาลได้ยินว่าต้องติดคุก ถึงกับช็อกหมดสติ จนแพทย์และพยาบาลต้องหามตัวนำส่งโรงพยาบาล คิดว่านายไพศาลน่าจะเป็นแพะและจับผิดตัว เพราะไม่เคยเป็นโรคลมชัก อาจตกใจมากกว่าที่ต้องติดคุก

ขณะที่เพื่อนบ้านอีกราย กล่าวว่า รองเท้าและเข็มขัดที่ใช้ในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจก็ได้ไปยืมบ้านข้างเคียงมา เพราะบ้านของนายไพศาลยากจนไม่น่าจะมีเงินซื้อ

โดยในวันเกิดเหตุมีเพื่อน 4 คน ที่สามารถเป็นพยานยืนยันได้ว่า นายไพศาลอยู่ด้วยตลอดทั้งคืน เพราะทั้งหมดนอนอยู่ด้วยกัน เช่นเดียวกับรถจยย.ที่ใช้ประกอบการทำแผน ตำรวจก็ได้ออกอุบายไปยืมชาวบ้านข้างเคียงมา

ทั้งนี้ หลังได้ดูภาพผู้ต้องหาจากกล้องวงจรปิด ชาวบ้านทั้งหมดต่างยืนยันว่าไม่ใช่ตัวนายไพศาลอย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล