นายกฯย้ำรบ.ยึดโรด แมปลุยสร้างมั่นคง ปท.-เร่งแก้ค้ามนุษย์

นายกฯย้ำรบ.ยึดโรด แมปลุยสร้างมั่นคง ปท.-เร่งแก้ค้ามนุษย์

นายกฯย้ำรบ.ยึดโรด แมปลุยสร้างมั่นคง ปท.-เร่งแก้ค้ามนุษย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ย้ำ รัฐบาลยึดโรดแมป ลุยสร้างมั่นคงประเทศยั่งยืน ขณะเตรียมเข้มมาตรการดูแลช่วงปีใหม่ พร้อมมั่นใจร่วมมือไทยจีนดันการค้าลงทุนแตะ 1 แสนล้าน$ เผย ไทย-จีน MOU - ตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ชุด เร่งแก้ปัญหาค้ามนุษย์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" โดยระบุว่า การเดินทางไปจีนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรใกล้บ้าน ที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก เพื่อส่งเสริมความร่วมมือรอบด้าน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายมั่นใจว่า จะสามารถผลักดันมูลค่าการค้าการลงทุน ให้ขยายตัว 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 40 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน โดยในส่วนของความร่วมมือทวิภาคีด้านการพัฒนาเส้นทางรถไฟ ได้มีการลงนาม MOU แล้วนั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีคณะกรรมการร่วมเร่งหารือในรายละเอียดของโครงการภายในต้นปี 2558 โดยกำหนดภายในเดือนมกราคม พร้อมที่จะพูดคุยกัน จากนั้นจะเร่งศึกษาทำความเข้าใจ กฎกติกาการค้า การร่วมกันลงทุนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ในประมาณปลายปี 2558 พร้อมขอให้จีนสนับสนุนให้ไทยเป็น “ศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาค” โดยเฉพาะในเรื่องของความพร้อมของไทยที่จะเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ควบคุมระบบรถไฟในภูมิภาค รวมทั้งตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการรถไฟ

นอกจากนี้ ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ จะมีการศึกษาดูงานด้านกิจการอวกาศและการวิจัยในประเทศจีน การพัฒนาระบบ GPS สำหรับเรือประมง และใช้ประโยชน์จากดาวเทียมและเทคโนโลยีสำรวจระยะไกล หรือระบบ remote sensing พร้อมทั้งเสนอให้มีการลงนามความร่วมมือด้านอวกาศระหว่างรัฐบาลทั้งสองฝ่าย ขณะที่ความร่วมมือด้านพลังงาน จีนยินดีกระชับความร่วมมือกับไทยในเรื่องพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าพลังความร้อน โรงงานขยะ พร้อมเสนอการส่งออกเอทานอลแก่จีน สำหรับความร่วมมือด้านพลังงานนั้น จะหารือกันในการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านพลังงานไทย-จีน เพื่อขยายผลความสำเร็จต่อไป

ด้านการเกษตร จีนยินดีที่จะเร่งรัดดำเนินการตามที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน อีกทั้งจีนจะเร่งรัดการจัดตั้งสถาบันวิจัยยางในไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ ได้ขอให้จีนจัดตั้งสถาบันตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์เรื่องยาง และเรื่องรถยนต์ด้วย


นายกฯ เผยไทย-จีน MOU ร่วมมือตลาดทุน-ตลาดเงิน เร่งสร้างเชื่อมั่น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" โดยระบุว่า ไทยกับจีนได้ลงนามเพื่อยกระดับความร่วมมือตลาดทุนและตลาดเงินระหว่าง 2 ประเทศ จำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในประเทศไทย ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารประชาชนจีน ความตกลงทวิภาคีแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งประเทศจีน จำกัด และบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการทรัพยากรน้ำและการชลประทาน ซึ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น มีข้อจำกัด เงื่อนไข กฎกติกา พันธะสัญญาระหว่างประเทศต่าง ๆ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการพูดคุยเจรจา ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความร่วมมือต่าง ๆ ซึ่งไทยจะต้องสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ เคารพกติกาสากล เพื่อให้นานาชาติยอมรับ และลดความเหลื่อมล้ำ เกิดความเสมอภาค เท่าเทียมในเวทีต่าง ๆ ของโลก


นายกฯ พอใจถก GMS ดันโครงสร้างพื้นฐานการค้าท่องเที่ยว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" โดยระบุว่า ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างดีในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 ในหัวข้อ “ความมุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” ซึ่งจากนี้ผลการประชุมระดับผู้นำประเทศ GMS จะผลักดันการดำเนินความร่วมมือให้เป็นรูปธรรม อาทิ การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมต่อตามแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ ด้วยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 เมืองห้วยทราย สปป.ลาว-อ.เชียงของ ประเทศไทย การพิจารณาสถานที่ตั้งของ “ศูนย์ประสานงานการซื้อขายไฟฟ้า” รวมทั้งร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเชื่อมโยงประเทศสมาชิก และสนับสนุนเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาด้านกฎระเบียบ เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้า และคมนาคมขนส่งตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ 

ขณะที่ด้านการท่องเที่ยว จะลดขั้นตอนในการตรวจตราลง พร้อมจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวใน GMS สำหรับในปี 2559-2569 และผลักดันให้เกิด “ศูนย์ประสานการท่องเที่ยวของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” พร้อมเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านแรงงาน รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และความมั่นคงทางอาหาร น้ำ และพลังงาน ซึ่งประเทศสมาชิกต่างมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาอนุภูมิภาค GMS อย่างยั่งยืน พร้อมกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมกันที่จะนำไปสู่การค้า การลงทุนในภูมิภาค การร่วมกันพัฒนาแนวเส้นทางคมนาคมใน GMS ให้เป็นแนวระเบียงเศรษฐกิจ ขจัดอุปสรรคด้านกฎระเบียบการคมนาคมขนส่งข้ามพรมแดน เพื่ออำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายยานพาหนะ สินค้า และคน โดยจะมีการประสานความร่วมมือระหว่างกันในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับอนุภูมิภาค ให้สอดคล้องกันกับระดับคณะทำงาน และกรอบความร่วมมืออื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น อาเซียน อาเซียน-จีน และอาเซียนบวกสาม


นายกฯ จัดตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ชุด เร่งแก้ปัญหาค้ามนุษย์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" โดยระบุว่า การแก้ปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ เป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วน ซึ่งได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ในประเทศไทย เพื่อประเมินผลการดำเนินงาน ทบทวนประสิทธิภาพของกลไกการทำงานที่มีอยู่ สำหรับเป็นข้อมูลพื้นฐานในการหารือ และวางแผนการดำเนินงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นรายเดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 เป็นต้นไป ซึ่งที่ประชุมรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคที่หน่วยราชการต่าง ๆ ประสบ ที่จะต้องดำเนินการในปี 2558 สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ทั้งในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การให้ความคุ้มครองแก่เหยื่อการค้ามนุษย์และพยาน การป้องกันการค้ามนุษย์ และการสร้างความเป็นหุ้นส่วนกับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ภาคเอกชน ภาควิชาการ องค์กรอิสระ และสื่อมวลชน

พร้อมได้ตั้งคณะอนุกรรมการ 5 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการเรื่องค้ามนุษย์ คณะอนุกรรมการเรื่องประมง และ IUU คณะอนุกรรมการเรื่องแรงงานเด็ก แรงงานบังคับและแรงงานต่างชาติ คณะอนุกรรมการสตรี และคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและประชาสัมพันธ์ โดยทุกคณะต้องมีเป้าหมายและแผนงานอย่างชัดเจน พร้อมรายงานผลการดำเนินการให้ทราบทุกเดือน โดยในวันที่ 7 นี้จะกำหนดยุทธศาสตร์ระยะยาวและกำหนด Road Map ในการแก้ปัญหาในการรับรู้ให้กับองค์ระหว่างประเทศ ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อการค้าขาย เศรษฐกิจ การส่งออกเกี่ยวกับเรื่องประมง สินค้าทางประมงที่มีมูลค่ากว่าสองแสนล้านบาท 

นอกจากนี้ การจดทะเบียนเรือประมงไทยเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการต้องจดทะเบียนเรือทุกลำ ติด GPS ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2558 ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่เราจะต้องแสดงให้นานาชาติเขารับรู้ถึงการแก้ไขปัญหา เพื่อจะลดระดับในเรื่องของ ความเป็น Tier 3 และในเรื่องของกติกา (Illegal Unreported and Unregulated Fishing : IUU) เรื่องประมงด้วย จะมีผลต่อเสถียรภาพ ซึ่งรัฐบาลจะแก้ปัญหา Tier 3 ให้ได้โดยเร็ว


พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำเร่งช่วย ปชช. ประสบภัย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ โดยกล่าวว่า วันนี้ (26 ธ.ค.) ได้เดินทางไปยังจังหวัดพังงา เพื่อเข้าร่วมงานรำลึกครบรอบ 10 ปีเหตุการณ์พิบัติภัยสึนามิและแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียทุกคน ซึ่งภัยธรรมชาตินั้น เป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ แต่ทุกคนต้องพยายามในการที่จะป้องกันและบรรเทาความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาป่าต้นน้ำ พร้อมทั้งให้ความรู้ในเรื่องของการป้องกันภัย แจ้งเตือนภัยไว้ล่วงหน้า 

ขณะเดียวกัน ยังได้ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยระบุว่า ภาคใต้ปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลงมาก และฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการท่วมขังนานกว่าปกติ ดังนั้น ทางรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงได้เร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ยังกล่าวแสดงความชื่นชมยินดีกับทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ภายใต้การนำของ นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือ โค้ชซิโก้ ที่สามารถคว้าแชมป์ในรายการ AFF SUZUKI CUP 2014  ซึ่งทีม "ขุนพลช้างศึก" ของไทยสามารถพลิกสถานการณ์หลังจากได้รับพระราชทานกำลังใจจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านทางรองราชเลขาธิการ และได้นำชัยมาถวายพ่อหลวง และชาวไทยได้ในที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลได้มอบเงินสนับสนุนให้ 5 ล้านบาท และได้ขอความร่วมมือภาคธุรกิจเอกชนโดยบริษัท CP และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ให้เพิ่มอีกบริษัทละ 5 ล้านบาท รวมเป็น 15 ล้านบาท


'ประยุทธ์'ย้ำรบ.ยึดโรดแมปลุยสร้างมั่นคงปท.ยั่งยืน 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ถึงการทำงานของรัฐบาลในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ได้ดำเนินการตามนโยบายและยุทธศาสตร์ใหญ่ ที่ได้แถลงไว้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และแจ้งให้กับประชาชนเมื่อเริ่มเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งล้วนแต่เป็นการสร้างพื้นฐานการพัฒนาที่นำไปสู่ความยั่งยืนให้กับประเทศชาติในอนาคต ทั้งนี้ ทุกคนพยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศ บนหลักการที่ว่านโยบายการต่างประเทศเป็นส่วนประกอบสำคัญของนโยบายองค์รวมทั้งหมดในการบริหารราชการแผ่นดิน 

นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ในการสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ร่มเย็น น่าอยู่ มั่นคง แข็งแรงอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งตนเองได้กำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศไทยไว้แล้วว่า ในปี 2558-2562 นั้น รัฐบาลประเทศไทยจะต้องมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามแนวทางของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ส่วนมาตรการความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น รัฐบาลได้กำหนดมาตรการแผนอำนวยความสะดวกป้องกันอันตรายต่าง ๆ ในทุกมิติ รวมทั้งการให้การบริการขนส่งสาธารณะ การจัดเตรียมสิ่งอำนวย ความสะดวกภายในท่าเรือ สถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน อาคารผู้โดยสาร สถานีรถไฟ การอำนวยความสะดวกในด้านข้อมูล การจราจร การลดราคาค่าบริการจุดผ่านทางต่าง ๆ ในช่วงปีใหม่ ส่วนมาตรการป้องกันการลดอุบัติเหตุทางถนน จะเน้นการบูรณาการการป้องกันร่วมกันในลักษณะยึด Area Approach เช่น ให้จังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน มีมาตรการแก้ไขปัญหา ตั้งจุดตรวจ จุดพักรถ ดูแลการจราจรจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ถนนชำรุด บริเวณจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัย และปรับสภาพสิ่งแวดล้อมอันตรายข้างทาง เพื่อให้มีทัศนวิสัยให้ดีขึ้นในการขับขี่ยานพาหนะ

นอกจากนี้ ส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยในภาคต่าง ๆ ที่กำลังประสบภัยธรรมชาติ ซึ่งรัฐบาลพยายามช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต่อไป




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook