ดัชนีความเชื่อมั่นเริ่มฟื้นคืนชีพ ผงกหัวขึ้นรอบ 5 เดือนรับรัฐบาล
ทั้งนี้ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. 51 เพิ่มเป็น 74.8 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตเพิ่มเป็น 75.7 มีเพียงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปัจจุบันเท่านั้นที่ลดลงเหลือ 66.3 สำหรับปัจจัยบวกที่ช่วยให้ความเชื่อมั่นกลับมาดีขึ้น มาจากการคลี่คลายทางการเมือง ที่มีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองและได้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อีกทั้งราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับลดลงเหลือลิตรละ 18-20 บาท นอกจากนี้ยังได้รับผลดีต่อเนื่องจาก 6 มาตร การ 6 เดือนฝ่าวิกฤติฯ และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 1% จาก 3.75% เหลือ 2.75%
อย่างไรก็ตามความวิตกเกี่ยวกับปัญหาการตกงาน การว่างงาน กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่บั่นทอนดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม หลังจากมีสัญญาณการชะลอตัวและข่าวปลดคนงานเกิดขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งคนส่วนใหญ่ยังกังวลปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลก เสถียรภาพการเมือง และปัญหาค่าครองชีพราคาสินค้า
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ประชาชนกลับมีความหวังอีกครั้ง หลังจากเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นเริ่มฟื้นคืน โดยเฉพาะดัชนีการเมืองเพิ่มสูงสุดในรอบ 9 เดือน แต่ภาพรวมยังชี้วัดไม่ได้ว่าความเชื่อมั่นจะอยู่ช่วงขาขึ้น เพราะเป็นการสำรวจก่อนมีนโยบายรัฐบาลออกมา จึงต้องดูดัชนีเดือน ม.ค. 52 ก่อนถึงตัดสินได้ แต่ทิศทางความเชื่อมั่นน่าจะดีขึ้น เพราะคนคาดหวังว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นคืนได้.