DSIขอหมายจับเณรคำแล้วประสานยึดทรัพย์ถอนวีซ่า

ดีเอสไอ หอบเอกสารหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับ 'เณรคำ' 2 ข้อหาหนักแล้ว จ่อส่งหมายจับ พศ. ปปง. กต. ไล่ล่าตามตัวมาลงโทษต่อไป ขณะ ปปง. มอบกองปราบ ตรวจเงินบัญชีหาย 300 ล้าน ขู่คนเอี่ยวโทษหนัก

พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ได้เตรียมเอกสารหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับ อดีตพระเณรคำ ฉัตติโก ใน 2 ข้อหา คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 กรณีเว็บไซต์ของ อดีตพระเณรคำ เข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชน และข้อหา กระทำชำเราและพรากผู้เยาว์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ต่อศาลอาญารัชดา ในเวลา 09.00 น. วันนี้ (17 ก.ค.) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไป หากศาลออกหมายจับ ก็จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ประสานไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับคดีต่อไป อาทิ สำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) เพื่อให้ทราบทางสงฆ์ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อถอนวีซ่า และหนังสือเดินทาง ตำรวจทุกหน่วย เพื่อประกาศขึ้นบัญชีหมายจับ ซึ่งสามารถจับกุมตัวได้ทันทีหากพบตัว และ ปปง. เพื่ออายัดทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สุจริตต่อไป

 

ปปง.ขู่คนเอี่ยวย้ายเงิน'เณรคำ'300ล้านโดนโทษหนักด้วย

พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการข่าวกรองทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ว่า เริ่มเข้มงวดกว่าเดิม โดยจัดทีมลงพื้นที่ จนได้ข่าวความผิดมูลฐาน บุคคลที่เกี่ยวข้อง และเส้นทางการเงินมากขึ้นพอสมควร

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า อดีตพระเณรคำ ยักย้ายถ่ายเทเงินในบัญชีจาก 300 ล้าน จนเหลือ 3 ล้านบาทนั้น ส่วนนี้จะมีการประสานกองปราบปราม ตรวจสอบยอดที่แท้จริงอีกครั้ง แต่การตรวจสอบไม่ได้ยึดเพียงชื่อเท่านั้น เพราะเชื่อว่าต้องมีการโยกย้ายเงินแน่นอน โดยจะตรวจสอบบัญชีของเครือญาติด้วย ซึ่งมีร่องรอยให้ติดตามได้ และเป็นหลักฐานที่ชัดเจน จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องอยู่นิ่ง เพราะหากเกี่ยวข้องก็จะผิดฐานฟอกเงินด้วย โอน 1 ครั้ง นับเป็น 1 กรรม 1 วาระ โทษเพิ่มเป็นทวีคูณด้วย ส่วนข่าวทองคำ 8,000 ก.ก. ตอนนี้ยังพบเป็นเพียงข่าวที่พูดต่อๆ กันมา ซึ่งยากกว่าการติดตามเส้นทางเงิน แต่หากผู้มีเบาะแสก็ให้แจ้งเข้ามาจะเร่งตรวจสอบเช่นกัน

 

DSIรับข้อมูล'เณรคำ'ฉ้อโกง19ก.ค.นี้

นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์  หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์คดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผย ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า วันที่ 19 ก.ค.นี้  ดีเอสไอ ได้ประสานไปยัง กองปราบปราม เพื่อขอรับข้อมูลในการสอบสวน อดีตพระเณรคำ กรณีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งกองปราบปรามได้ร่วมกันสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะรวบรวมสรุปหลักฐาน ในการขออนุมัติหมายจับจากศาลต่อไป ซึ่งถือว่า เป็นคดีที่ 3 ที่จะออกหมายจับ คาดว่า สัปดาห์หน้า จะสามารถขอออกศาลหมายได้

ซึ่งในคดีฉ้อโกงนี้ คาดว่าจะมีผู้ที่ถูกออกหมายจับเพิ่มเติมอีกจำนวนหลายคน เพราะคดีฉ้อโกง มีทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากขนาดนี้ ตัวอดีตพระเณรคำคนเดียวคงทำไม่ได้แน่ ต้องมีคนร่วมด้วย ซึ่งคาดว่าหากมีการออกหมายจับในคดีดังกล่าว จะมีผู้ที่ทั้งเสียหายและผู้ที่อาจจะไม่แน่ใจว่าอยู่ขบวนการด้วยหรือไม่มาให้ปากคำจำนวนมาก โดย ดีเอสไอ เตรียมพร้อมที่จะสอบสวนต่อไปแล้ว

 

ดีเอสไอยื่นศาลออกหมายจับเณรคำ3ข้อหาหนัก

นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการสอบสวนคดีความมั่นคง 1 สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นำเอกสารพยานหลักฐาน มาขออนุมัติศาลอาญา รัชดา ออกหมายจับ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม จังหวัดศรีสะเกษ ที่ขณะนี้ยังคงหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ในฐานความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 กรณีเว็บไซต์ของนายวิรพล เข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชน  2.กระทำชำเราและพรากผู้เยาว์ เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี  3.ฉ้อโกงประชาชน

โดย นายทวีวัฒน์ กล่าวว่า ดีเอสไอ เชื่อมั่นว่า พยานหลักฐานต่าง ๆ ที่นำมาในวันนี้ มีน้ำหนักเพียงพอที่จะสามารถออกหมายจับ นายวิรพล ได้ แต่ก็อยู่ในดุลยพินิจของศาล

ทั้งนี้ หากศาลอนุมัติหมายจับ นายวิรพล ดีเอสไอ ก็จะเดินหน้าติดตามตัว นายวิรพล มาดำเนินคดี โดยจะประสานไปยังกระทรวงต่างประเทศ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน รวมไปถึงจะประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่ออายัดทรัพย์สินทั้งหมดของ นายวิรพล ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่าย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ จะมีการแถลงในรายละเอียดของคดีอีกครั้งที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ

 

ดีเอสไอเผยรู้ผลศาลหมายจับเณรคำพรุ่งนี้

นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการสอบสวนคดีความมั่นคง 1 สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวภายหลังยื่นคำร้องขออนุมัติศาลอาญารัชดา ออกหมายจับ นายวิรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ที่ขณะนี้ยังคงหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ในฐานความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 กรณีเว็บไซต์ของ นายวิรพล เข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชน 2.กระทำชำเราและพรากผู้เยาวว์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 3.ฉ้อโกงประชาชน

โดยระบุว่า ศาลได้นัดฟังคำสั่งว่าจะอนุมัติหมายจับหรือไม่ ในพรุ่งวันนี้ ช่วงบ่าย เนื่องจากมีพยานหลักฐานจำนวนมาก ศาลจึงขอพิจารณาพยานหลักฐานให้ละเอียดรอบคอบก่อน โดยจะมีการพิจารณาเป็นองค์คณะ ก่อนที่จะมีคำสั่งต่อไป

ขณะที่ ในส่วนของพยานหลักฐานที่นำมายื่นต่อศาลในวันนี้ เป็นเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ นายวิรพล ทั้งหมด ว่ามีพฤติกรรมอย่างไร มีบัญชีทรัพย์สินมากน้อยแค่ไหน และเรื่องการเปิดเว็บไซต์รับบริจาคเงินทำบุญ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฉ้อโกง

ส่วนข้อหากระทำชำรำเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีนั้น มีหลักฐานเป็นคำให้การของผู้เสียหาย และพยานแวดล้อม ซึ่งจะต้องรอฟังคำสั่งของศาลอีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้ โดยตนจะเดินทางมารับฟังคำสั่งด้วยตัวเอง และหากศาลอนุมัติหมายจับ ก็จะนำไปเสนออธิบดีดีเอสไอเพื่อดำเนินการต่อไป