DSIลั่นPCCปัดข้อหาไร้ผล-สั่งอายัดเงินในบัญชี450ล้าน

พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. หลังที่บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เข้าพบพนักงานสอบสวน และปฏิเสธข้อกล่าวหาการฉ้อโกงและทุจริตงบประมาณแผ่นดิน ว่า ไม่มีผลกับการดำเนินคดี เพราะทางบริษัท พีซีซีฯ เองก็ยังชี้แจงข้อสงสัยไม่ชัดแจงหลายเรื่อง อาทิ การอ้างว่าจ้างผู้รับเหมาช่วง คือ การจ้างแรงงาน แต่สัญญาระบุชัดเจนว่า เป็นการจ้างผู้รับเหมาช่วง อีกทั้งระบุว่า ไม่ได้รับหนังสือยินยอมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งที่ต้องมี และอ้างปัญหาเรื่องสถานที่ก่อสร้างว่ามีการส่งแบบที่ขัดกับเทศบัญญัติ จึงให้ชี้แจงเป็นรายโรงพักให้ละเอียด โดยทางบริษัท พีซีซีฯ ได้ขอส่งให้ดีเอสไอภายหลัง และอีกหลายประเด็นที่ยังขัดกับหลักฐาน พร้อมอ้างเรื่องการขาดสภาพคล่องของบริษัททั้งนี้ทางดีเอสไอ ได้ดำเนินการอายัดเงินของบริษัท พีซีซีฯ ในธนาคารออมสิน ที่เข้าข่ายลักษณะการแปลงหนี้เป็นจำนวนประมาณ 450 ล้านบาท และดำเนินการตรวจสอบเงินทุกบัญชีที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โอนให้เป็นค่าจ้างล่วงหน้าเพื่อดูเส้นทางการเงินและผู้เกี่ยวข้องจนกว่าคดีจะสิ้นสุด แต่ยังไม่ทราบว่าเงินทั้งหมดจะเหลือจำนวนเท่าใด โดยจะตรวจสอบและอายัดไปจนกว่าจะครบส่วนที่เหลือทั้งหมด 'วิรัตน์'เผยคดีสร้างโรงพักปชป.ถูกกลั่นแกล้ง นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยรายการ เปิดข่าวเด่น เจาะประเด็นดัง ถึงกรณีการก่อสร้างโรงพัก ที่ดีเอสไอบอกว่าเป็นการฮั้วประมูล ว่า ดีเอสไอกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตามมาตรา 157 และฮั้วประมูล ซึ่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขณะนั้น ได้ฟ้อง นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการไปแอบสั่งหรือไปซิกแซกได้  ทั้งนี้ บริษัทส่งมอบช้าไป 200 กว่าแห่ง การประมูลได้ต่ำกว่าราคากลางมาก ก็มีประโยชน์ต่อราชการ เรื่องนี้มองเป็นเรื่องอื่นไม่ได้ ถือเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง คนที่กระทำผิดมีหลักฐานชัดเจน ก็ถูกกันออกไปหมด มองแล้วมีนัยทางการเมือง คนที่ทำผิดจริงรอดไปได้  อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ที่จริงแล้วไม่น่าจะถึง นายอภิสิทธิ์ เพราะได้มอบหมายให้ นายสุเทพ ดูแลแล้ว และทางพรรค ปชป. ไม่ได้คุยกับ บริษัทพีซีซีฯ แต่อย่างใด