มองผ่านเลนส์คม - หนังเก่าเล่าใหม่
หนังสวยเรื่องนี้เป็นงานของผู้กำกับ อิซาโอะ ยูกิซาดะ สร้างเมื่อปี 2005 และดังมากในญี่ปุ่นโดยนักแสดงนำหญิงคือ ซายูริ โยชินางะ ได้รับรางวัลแจแปน ฟิล์ม อวอร์ด
// //
เคยฉายในโรงภาพยนตร์เมืองไทยนานแล้ว แต่ไม่ดัง เผลออึดใจเดียว หนังก็ออกจากโรง บรรดาคอหนังจึงต้องตามซื้อดีวีดีไปดูให้หายอยาก
ส่วนคอหนังระดับอ่อนๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาเข้าโรงหนังหรือนั่งดูดีวีดีที่บ้าน หายอยากได้ด้วยทรูวิชั่นส์ที่ช่วยอำนวยความสะดวก (แม้ต้องรอนานสักหน่อย) เหมือนอย่างที่ได้ดูครั้งนี้
พระเอกเคน วาตานาเบะ ในเรื่องน่าหมั่นไส้มาก ใจคอโลเลเห็นแก่ความสุขสบายเฉพาะหน้า ยอมทิ้งศักดิ์ศรีซามูไรใส่สูทเป็นลูกน้องขุนนางบ้าอำนาจ แถมทิ้งครอบครัวไปมีใหม่ เอารูปมาเย้ยเมียเก่าอีกต่างหาก แต่เพราะเมียและลูกในเรื่อง จิตใจแสนดีมีน้ำอดน้ำทน ความไม่เอาไหนของพระเอกจึงเด่นชัด เสียคนโดยไม่ต้องโดนใครกระทืบ
เมียเก่าใจเด็ด เป็นตัวละครที่ได้ใจคนดูไปเต็มๆ เช่นเดียวกับซามูไรพเนจร รับบทโดย เอทสึชิ โตโยกาว่า หล่อลากดินตั้งแต่ฉากแรกที่ปรากฏตัวในบทสุภาพบุรุษช่วยเมียพระเอกซึ่งกำลังจะถูกอันธพาลปล้ำ แถมมีประวัติน่าปลอบเพราะสู้กับอำนาจมืดฝ่ายรัฐจนลูกเมียตายเกลี้ยง
เนื้อหาของหนังมาจากเค้าโครงเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นยุคระบบโชกุนล่มสลาย ซามูไรถูกทิ้ง คนจากหมู่บ้านอาวาจิที่เป็นพวกแพ้สงครามถูกส่งไปบุกเบิกที่ดินทางภาคเหนือที่ฮอกไกโด ชีวิตลำเค็ญเจอทั้งพายุหิมะ ฝูงตั๊กแตนกินพืช และตัวกดขี่ขูดรีดพันธุ์ใหม่ คือพ่อค้าหน้าเลือดกับขุนนางใจดำ
เมียเก่าและลูกพระเอกนำคนร่วมชุมชนทำมาหากินด้วยแรงบันดาลใจจากคำพูดปลุกใจเก่าๆ ของพระเอกว่านี่คือแผ่นดินของเรา
น่าเสียดายที่พระเอกลืมคำด้วยข้ออ้างว่าผมตาสว่างแล้ว รู้แล้วว่าอุดมคติเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ไม่เคยมีแผ่นดินของเรา แต่เมียเก่าพระเอก ลูกสาว ซามูไรพเนจร และชาวบ้านยืนหยัดเห็นต่างว่า มี และเมื่ออยู่ในฐานะด้อยโอกาสกว่า ยิ่งต้องสู้ให้มีเพราะไม่มีอะไรจะเสีย...
ความจริงคือชาวบ้านก็ตาสว่าง เพียงแต่สว่างต่างมุมกับพระเอก ซึ่งเป็นคนต่างชนชั้นไปแล้ว
นิธินันท์ ยอแสงรัตน์
ตะลุยข่าว : THE GREEN POLICE กองปราบฯ สู่ศตวรรษที่ 21
ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกสามารถระงับยับยั้งปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงและควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ ตรงกันข้ามกับประเทศไทย กลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และมีการกล่าวถึงในระดับนานาชาติว่า