นิติเวชเผยDNAอีก2ศพไม่ใช่2ผัวเมีย-จ่อแจ้งข้อหาฆ่าคน

พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี เปิดเผยกับ สำนักงาน ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตามที่ผลการตรวจโครงกระดูก 3 ร่าง ล่าสุด ปรากฏว่า ไม่ใช่ร่างของ 2 สามีภรรยา ที่หายตัวปริศนาไป ออกมาแล้วนั้น จะไม่มีผลทางรูปคดีที่แจ้งข้อกล่าวหาต่อ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นคนละคดีกัน ซึ่งกรณีพบโครงกระดูก สามารถแจ้งข้อหาฆ่าคนตายเพิ่มได้อีกหนึ่งคีดทันที ไม่ว่าโครงกระดุกนั้นจะเป็นของใคร แต่เมื่อพบที่ไร่ของ หมอสุพัฒน์ ก็ต้องตกเป็นผู้ต้องหาได้แล้ว ส่วนศพของ 2 สามีภรรยา ที่สูญหาย ก็ต้องค้นหากันต่อไป ตร.ไม่ละความพยายามอยู่แล้ว และกรณีภรรยาคนที่ 3 ของ หมอสุพัฒน์ ที่เป็นกุญแจดอกสำคัญ ยังหลบหนีนั้น ตร.ก็ล่าตัวต่อไป และคาดว่า ที่หลบหนีได้นานนั้น น่าจะมีคนรู้จักกว้างขวางคอยช่วยเหลืออยู่  ตร.จ่อแจ้งข้อหาฆ่าคนตายหมอสุพัฒน์อีกพ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังจากสอบปากคำพี่ชาย ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ คือ นายสุเทพ ไปแล้วนั้น ทาง พงส.ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อที่จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาอีกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทารุณแรงงงานต่างด้าว หรือ ข้อหาค้ามนุษย์ รวมทั้ง ข้อหาฆ่าคนตายด้วย ซึ่งเป็นข้อหาที่โยงกับการหายตัวปริศนาของ 2 สามีภรรยา และการพบโครงกระดูก 3 ร่าง ในไร่ของผู้ต้องหาด้วย ส่วนพยานสำคัญทั้งหมด อาทิ นายกะลา แรงงานชาวพม่า ที่เป็นผู้ชี้จุดฝังศพ พยานปากเอก และญาติของ 2 สามีภรรยา ตร.ได้ส่งกำลังไปคุ้มครองดูแลเป็นอย่างดีแล้ว ร.พ.ตร.แถลงผลDNAโครงกระดูกอีก2ร่างพล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยผลการชันสูตรโครงกระดูกอีก 2 ร่าง ที่ขุดพบในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของสองสามีภรรยา ชาวเพชรบุรี โดยระบุว่า จากการเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอบิดามารดาของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย ผู้สูญหาย ผลสรุปยืนยันว่า โครงกระดูกทั้งสองไม่ใช่ นายสามารถ และไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของ นางสาวอรสา เกิดทรัพย์ ภรรยาของ นายสามารถ เช่นกัน แต่พบว่าโครงกระดูกที่ 3 มีการเสื่อมสลายมาก จนไม่สามารถระบุเพศ หรือระยะเวลาที่ถูกฝังได้ แต่หากญาติผู้สูญหายยังข้องใจ และต้องการขอให้หน่วยงานอื่นไปตรวจสอบซ้ำ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนในการพิจารณา แต่ยืนยัน ผลการตรวจดีเอ็นเอ มีความแม่นยำกว่าร้อยละ 99 อย่างไรก็ตาม หากใครต้องสงสัยว่า โครงกระดูกทั้งหมดอาจเป็นญาติตนเอง สามารถนำดีเอ็นเอมาตรวจเปรียบเทียบได้ โดยวันจันทร์นี้ จะทำใบรายงานผลทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ส่วนโครงกระดูกทั้งหมด ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน จะเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไปหรือไม่ DSI เผยพม.เพชรบุรีกล่าวโทษหมอสุ-พัฒน์ทารุณแรงงานพ.ต.อ.วรณัน ศรีล่ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการติดตามคดี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตนายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยา ชาว จ.เพชรบุรี ว่า จากการสอบปากคำ นายกะลา แรงงานชาวพม่าในไร่ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เมื่อตรวจสอบดูข้อกฎหมาย พบความผิดเรื่องการทารุณบังคับใช้แรงงานอยู่ด้วย จึงแยกสำนวนส่งศูนย์การค้ามนุษย์ ดูว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ระหว่างนั้น ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. จ.เพชรบุรี เห็นว่ามีความผิดในส่วนนี้ จึงเข้ากล่าวโทษ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ กับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าไม้รวก ให้ดำเนินคดีเพิ่มเติม โดยส่วนของดีเอสไอ ยังคงติดตาม แต่ตำรวจทำคดีคืบหน้าไปมาก จึงดูแบบคู่ขนานไป หากมีประเด็นใดที่รับเป็นคดีพิเศษก็จะรับมาดำเนินการ  ด้าน พ.ต.ท.ประสงค์ กุลจิตติปราณี รอง ผกก.สส.สภ.ท่าไม้รวก กล่าวว่า ทาง พม.เพชรบุรี ได้เข้ากล่าวโทษ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์แล้ว บังคับใช้แรงงานผิดกฎหมาย โดยทางตำรวจได้รับเป็นคดี พร้อมจะมีการสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีต่อไปทั้งนี้ ในวันนี้เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ จะแถลงผลตรวจดีเอ็นเอ โครงกระดูก อีก  2  โครงที่เหลือ ในคดีของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ด้วย ผบ.เรือนจำเพชรบุรีเผยหมอสุพัฒน์สบายดี นายสุรสิทธิ์ จิตรชอบใจ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์ ร.พ.ตำรวจ ที่ต้องคดีการหายตัวปริศนาของ 2 สามีภรรยา จ.เพชรบุรี ที่ถูกคุมขังในเรือนจำเป็นวันที่ 4 ซึ่ง หมอสุพัฒน์ ยังคงเป็นปกติ ไม่เครียด รับประทานอหารได้เหมือนนักโทษทั่วไป และยังมีสุภาพที่แข็งแรงมาก ส่วนเมื่อวานนี้ที่ นายสุเทพ เลาหะวัฒนะ พี่ชาย หมอสุพัฒน์ มาให้ปากคำกับ พงส. ในคดีที่ จ.เพชรบุรี นั้น ไม่ได้แวะมาเยี่ยมน้องชายแต่อย่างใด คงมีเพียงทีมทนายความของ หมอสุพัฒน์ เข้าเยี่ยมและพูดคุยเท่านั้น บิดา2สามีภรรยาเชื่อโครงกระดูกเป็นลูกชายนายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดาของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย ลูกชายที่สูญหายไปพร้อมกับภรรยา เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เมื่อวานนี้ ตนเองไม่ได้เข้าไปดูการขุดหาศพที่ไร่ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ซึ่งในวันนี้รอผลดีเอ็นเอ โครงกระดูกอีก 2 ร่าง แต่หากไม่เจอดีเอ็นเอโครงกระดูกที่เหลือ จะขอนำไปตรวจที่สถาบันอื่นอีกครั้ง เพื่อความมั่นใจ ซึ่งที่ผ่านมาพอใจในการทำหน้าที่ของตำรวจ ตามขั้นตอนทุกอย่าง โดยส่วนตัวโครงกระดูกมั่นใจว่าเป็นกระดูกของลูกชายแน่ ส่วนศพของลูกสะใภ้นั้น ยังหาไม่เจอ ส่วน นายกะลา นั้น ส่วนตัวยังไม่เคยคุยกันเลย ซึ่งหวังว่าตำรวจทำงานไม่ยากแน่ เพราะมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนอย่างมาก ว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ กับลูกชายและลูกสะใภ้เดินทางมาด้วยกัน ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย 'ธาริต'เผยตรวจโครงกระดูกซ้ำอยู่ที่พงส.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวภายหลังผลการชันสูตรโครงกระดูกอีก 2 ร่าง ที่ขุดพบในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของสองสามีภรรยา ชาวเพชรบุรี ว่า คดีดังกล่าวอยู่ในความดูแลของตำรวจ ดีเอสไอเป็นเพียงหน่วยงานที่คอยเฝ้าติดตาม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการนำเข้าเป็นคดีพิเศษ ส่วนจะให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้ามาช่วยเหลือในการตรวจสอบโครงกระดูกทั้ง 3 ร่างนั้นหรือไม่ ขึ้นอยู่ตำรวจเจ้าของสำนวนจะพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอบิดามารดาของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย ผู้สูญหาย ยืนยันว่า โครงกระดูกทั้ง 2 ไม่ใช่ นายสามารถ และไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของ นางสาวอรสา เกิดทรัพย์ ภรรยาของ นายสามารถ เช่นกัน และพบว่า โครงกระดูกที่ 3 มีการเสื่อมสลายมาก จึงทำให้มีความยากลำบากในการตรวจสอบ